วันที่ 1 พ.ค. 2565 ที่โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จ.ชลบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม 16 ส.ส.จะนัดหารือกับผู้นำฝ่ายค้านฯ ถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า จะคุยกับพรรคเล็กหรือไม่นั้น ถ้าเป็นข้อเสนอก็เป็นประโยชน์อยู่ในกรณีจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยสามารถใช้เป็นข้อมูลเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจตัวนายกรัฐมนตรี เพราะฝ่ายค้านก็มีวัตถุประสงค์จะต้องทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมรวมถึงพรรคเล็ก เห็นพ้องกับฝ่ายค้านในข้อกล่าวหาของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งข้อมูลของพรรคเล็กก็เป็นประโยชน์กับฝ่ายค้านอยู่แล้ว เพราะพรรคเล็กอาจมองเป็นการช่วยประเทศชาติ ขณะนี้ประชาธิปไตยของประเทศกำลังเสื่อม ส่วนจะพูดคุยแล้วเป็นประโยชน์กับใครจะต้องดูรายละเอียด ส่วนจะนัดหารือกับกลุ่ม 16 ส.ส.พรรคเล็กหรือไม่ ยังไม่ได้พูดคุยร่วมกันชัดแจ้งแต่รับฟังข้อมูลที่เสนอมา
นพ.ชลน่าน ระบุว่า คงต้องดูอีกกรณีจะหารือกับพรรคเล็ก ในมุมของฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ไป ส่วนประเด็นไหนที่กลุ่ม ส.ส.ของ พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. จะเสนอก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการไปคุยแยกต่างหาก แต่จะไม่พิจารณาร่วมกัน เพราะข้อมูลของฝ่ายค้านเป็นข้อมูลลับ จะทำให้เปิดเผยไม่ได้ แต่เป็นสิทธิของผู้อภิปรายที่จะรักษาเนื้อหาการอภิปราย
"เป็นเกมปั่นราคาไหม ต้องมองมุุมประโยชน์โดยตรงก่อน แต่ผมมองว่าถ้าพรรคเล็กมีเจตนาที่ดีต่อประเทศ วางเกมทางการเมืองหรือทำการเมืองลักษณะก็ต้องโจ่งแจ้งไม่ได้ทำลับๆ ล่อๆ เขาประกาศอยากช่วยในเรื่องที่เห็นเป็นความเสียหายในเรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี ซึ่งก็ได้ให้สัญญาประชาคมกับประชาชนว่าอยากทำเรื่องนี้ ถ้าเขาไม่ทำ แล้วเป็นการปั่นราคา เรียกราคาเพิ่ม เขาจะเสียหายเอง ไม่เกิดประโยชน์ทางการเมือง เพราะการทำงานการเมืองของ ส.ส.พรรคเล็กจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ดังนั้นต้องคำนึงเรื่องนี้มาก ถ้าปั่นราคาทางการเมือง ผมคิดว่าจะเป็นฆ่าตัวตาย ผมไม่คิดว่าพรรคเล็กจะฆ่าตัวตายทางการเมือง เพราะเขาต้องการสร้างพรรคการเมืองเข้มแข็ง" นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะหารือกับพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน เรามี 208เสียง การทำให้เสียงไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีได้ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 238 เสียง ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านต้องการประมาณ 30 เสียง ข้อกล่าวหาที่พรรคฝ่ายค้านจะใช้นั้น การติดต่อประสานงานกับพรรคที่เห็นแก่ประเทศชาติ ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ปฏิเสธที่จะเข้าไปพบปะพูดคุย แต่จังหวะไหนต้องดูรายละเอียดอีกที
เมื่อถามว่าแสดงว่าถ้าได้เสียงขอพรรคเศรษฐกิจไทยเข้าร่วมลงมติไม่ไว้วางใจก็จะมีผลทำให้ตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีและรมว.กลาโหมต้องล้มลงจากตำแหน่งได้ทันที นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นไปได้สูงมาก เผลอๆ อาจจะมีการตัดสินใจก่อนก็ได้ ในขณะที่เรายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว พอกฎหมายลูกผ่านในวาระที่ 3 กลางเดือน มิ.ย.นี้ โดยยื่นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองและ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เพื่อพิจารณาในวาระที่ 2-3 ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ต่อประธานรัฐสภา อภิปรายได้เร็วสุดไม่เกินกลางเดือนมิ.ย.นี้ พอผ่านแล้วฝ่ายค้านก็จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ในเดือน มิ.ย.จะมีเรื่องที่ตัดสินใจหลายเรื่อง หากเกิด พล.อ.ประยุทธ์ อยากจะรับผิดชอบต่อบ้านเมืองคิดว่าตัวท่านเองออกไปจะมีคนทำหน้าทีดีกว่า อาจจะเกิดเหตุการณ์ในช่วงนั้นก็ได้
ถามว่า ฝ่ายค้านได้กระแสว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะพรรคพลังปวงชนไทยก็พูดในทำนองนายกฯจะลาออกในเดือน มิ.ย.นี้ ระหว่างยุบสภาหรือลาออกอะไรจะเกิดก่อนกัน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ง่ายที่สุดคือการลาออก ง่ายกว่ายุบสภาฯ ในตอนนี้
เตรียมดีล 16 ส.ส.ร่วมพันธมิตรซักฟอก ขู่นายกฯ เจอ 30 เสียงหนุนฝ่ายค้านแน่
ด้าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุถึงการหารือกับหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส.ว่า พิเชษฐ ได้นัดตนหารือ โดยพิเชษฐได้หารือถึงความอึดอัดใจกรณีท่อส่งน้ำอีอีซี ซึ่งคิดว่าพิเชษฐไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะเซ็นสัญญาจ้างบริษัทในวันที่ 3 พ.ค.นี้ พิเชษฐได้แลกเปลี่ยนกับตนระดับหนึ่ง เพราะพิเชษฐ เคยเป็นผู้บริหารการประปามาก่อน และก็ได้ปรารภว่าถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าโดยไม่เห็นความเสียหายก็พูดถึงขนาดจะไม่ยกมือไว้วางใจให้ อีกทั้ง ขณะนี้มีการให้ข้อมูลจากฝ่ายส.ส.พรรคเล็ก ที่คิดว่าได้ประสานงานมา ทาง นพ.ชลน่านได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้ประสานงานเบื้องต้นในการพูดคุยหรือไม่พูดคุย โดยจะนำเรียนประเด็นนี้ต่อไปในอนาคตหากมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคอื่นๆในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ถามว่า ประเมินเสียงของกลุ่ม 16 ส.ส.ที่จะเข้ามาร่วมไม่ไว้วางใจรัฐบาลกับฝ่ายค้านมีจำนวนเท่าไร ประเสริฐ ระบุว่า กลุ่ม 16 ส.ส.ก็ยึดตัวเลขนี้อยู่ ที่ได้เปิดเผยตัวเลขนี้ชัดเจน ก็ยึดตัวเลข 16 เสียงอยู่ ส่วนจะต้องคุยกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ตนไม่อยากให้คิดอย่างนั้น เพราะขณะนี้พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้แสดงตัวตนเป็นพรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ผมเรียนว่าถ้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเศรษฐกิจไทยต้องมีตัวแทนเป็นรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มี ดังนั้น จะกล่าวหาว่าพรรคเศรษฐกิจไทยที่มี ส.ส. 18 เสียง จะสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลหรือไม่นั้นก็ยังตอบไม่ได้ ก็เป็นประเด็นอยู่ถ้าพรรคเศรษฐกิจไทยรวมกับพรรคเล็กต่างๆ กลุ่มนี้จะมี 30 เสียง มีนัยพอสมควรจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้