ไม่พบผลการค้นหา
กสม. เผยได้รับการประสานจาก พม. ร่วมพูดคุยหาทางออกกรณี ‘หยก’ ย้ำเด็กทุกคนต้องไม่หลุดจากระบบการศึกษา ไม่เห็นด้วยส่งตำรวจเข้าไปใน รร. วอนทุกฝ่ายคืนสถานศึกษาสู่ภาวะปกติ เพื่อเด็กมีสมาธิกับการเรียน

วสันต์ ภัยหลีกลี้ หนึ่งในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงการประชุมภายในระหว่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อหารือกรณีของ ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทาง กสม. มองประเด็นนี้โดยมุ่งเน้นที่สิทธิทางการศึกษา เห็นว่า เด็กทุกคนไม่ควรหลุดออกไปจากระบบการศึกษา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่กรณีของ หยก เท่านั้น แม้เรื่องนี้สังคมจะมีข้อถกเถียงที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวาง

สำหรับทางออกของปัญหา หน่วยงานอย่าง พม. โดยเฉพาะกรมกิจการเด็กและเยาวชน ควรมีส่วนเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งในทางกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก กำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็กมีหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว กสม. จึงมีข้อเสนอว่า นอกจากทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ควรเป็นตัวกลางในการพูดคุยกับโรงเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทาง พม. เอง ก็ควรมีส่วนร่วมเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เข้าใจว่าการพูดคุยที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. จะเป็นส่วนของทาง พม. เพื่อหาโอกาสหรือช่องทางแก้ปัญหา ก่อนที่จะมีการเชิญ หยก ให้มาพูดคุยกันต่อไป พร้อมยืนยันว่า กสม. ยินดีเป็นตัวกลางหรือผู้ช่วยประสานงานให้เกิดการพูดคุยที่เป็นประโยชน์ต่อ หยก เด็กคนอื่นๆในโรงเรียน และสังคมในภาพรวมด้วย ซึ่ง กสม. ก็ได้รับการประสานงานมาจาก พม. บ้างแล้ว 

นอกจากนี้ วสันต์ กล่าวว่า กสม. เคยออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในโรงเรียน เพราะเป็นพื้นที่การศึกษาและเป็นพื้นที่ปลอดภัยของนักเรียน แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงว่า เป็นการดูแลความปลอดภัยให้กับทุกฝ่าย แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรทำให้สถานศึกษากลับคืนสู่ภาวะปกติ เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนโดยไม่มีความกังวลหรือถูกรบกวนสมาธิ