ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน กสทช. สั่งบี้ทรู-ดีแทคต่อเนื่อง โต้ 'ศิริกัญญา' ยันบอร์ดทำตามกฎหมาย ด้าน 'พิชัย' แนะ กสทช. ควรแสดงศักยภาพดูแลมากกว่านี้

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ เดินหน้าขับเคลื่อนแผนคุ้มครองลูกค้าทรู-ดีแทค ทั้งด้านโปรโมชั่นและบริการ รับยังไม่พอใจผลการหารือกับผู้ประกอบการ เร่งสำนักงาน กสทช.หาพื้นที่มีปัญหาให้ชัดจะแก้ตรงจุด ตอบโต้ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำวาระบอร์ดทำตามกระบวนการกฎหมาย กรรมการ 4 คน เสนอมาก็ต้องไม่ลัดขั้นตอนหรือใช้ต่อรองเพื่อเข้าร่วมประชุม

ภายหลังจากที่ กสทช. ได้เรียกผู้บริหาร TRUE-DTAC ชี้แจงการดำเนินมาตรการดูแลผู้บริโภค ทั้งเรื่องราคาและคุณภาพสัญญาณหลังการควบรวม แต่ยังมีเสียงสะท้อนทางการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง อาทิ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค 

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. กล่าวว่า ในฐานะประธานกสทช.พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายทั้งในโซเชียลมีเดียและภาคประชาชน แม้ที่ผ่านมา สำนักงานกสทช.จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว แต่โดยส่วนตัวก็ยังไม่พอใจต่อผลการปฏิบัติของสำนักงานกสทช. อยากเห็นการดูแลประชาชนผู้ใช้งานและสาธารณะมากกว่านี้ได้อีกหรือไม่

“สำนักงาน กสทช.ต้องเร่งทำความเข้าใจและสร้างความชัดเจนใน 2 เรื่องคือ การส่งเสริมการขายของบริษัท และคุณภาพการให้บริการอยู่ในเกณฑ์หรือไม่ เพราะมีผู้ใช้บริการหลายสิบล้านคนที่เขาต้องดูแล แล้วคนที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มไหน อยู่ในพื้นที่ไหน เป็นจำนวนเท่าไหร่ สำนักงาน กสทช.ต้องเร่งเข้าไปหาต้นตอของปัญหา และแก้ไขโดยด่วน ต้องบอกสังคมด้วยปัญหาอยู่ตรงไหน และ แก้ไขอย่างไรบ้าง”

หลังจากนี้ กสทช.ต้องเดินหน้าเร่งรัดให้ผู้ประกอบการแก้ปัญหาเชิงเทคนิคและปรับปรุงบริการลูกค้าให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามที่ตลาดและสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งไม่เฉพาะกรณีของ TRUE-DTAC เท่านั้น มีบางความเห็นมีกล่าวถึงการให้บริการและราคาของ AIS ด้วย ก็ต้องไปตรวจสอบดูว่าว่าทำไมและเหตุใดประชาชน ถึงมีประเด็นดังกล่าว “เราต้องตั้งใจฟัง ผมเป็นหมอ ผมต้องฟังคนไข้ ก่อนวินิจฉัยอาการ” 

รวมถึงปัญหาที่ไม่มีผู้ให้บริการประชาชนอย่างเพียงพอ ก็ได้เร่งให้สำนักงานส่งเสริมการประกอบการ MVNOs รวมถึงได้แจ้งไปยังรัฐบาล ถึงความต้องการยกระดับผู้ประกอบการด้วย ซึ่งกสทช.เร่งสนับสนุนไม่ได้นั่งรอเฉยๆ แต่เชิญชวนผู้ประกอบการในต่างประเทศมาลงทุน ซึ่งใช้โอกาสในระหว่างการเดินทางไปประชุมเวทีต่างประเทศทุกครั้งพยายามหารือกับผู้ประกอบการต่างประเทศที่สนใจ

“ในส่วนที่ คุณศิริกัญญา ให้สัมภาษณ์รายการคุณสรยุทธ สุทัศนจินดา เรื่องการบรรจุวาระประชุมนั้น ขอชี้แจงว่า คุณศริกัญญา ก็เป็น สส.มาถึงสองสมัย ก็ควรเข้าใจว่าทุกวาระบรรจุก็ต้องขออนุมัติประธานสภาและเข้าคิวเหมือนกัน เรื่องไหนสำคัญที่มีกรอบระยะเวลาก็เร่งบรรจุเป็นพิเศษอยู่แล้ว ประธานไม่ได้เลือกบรรจุตามความต้องการ แต่มีการตรวจสอบความถูกต้องว่า การเสนอนั้นถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นประเด็นการออกระเบียบประกาศ ไม่ถูกต้องอาจถูกฟ้องที่ศาลปกครองอีก หากคุณศิริกัญญา อ้างถึง กรรมการ กสทช. 4 คน ที่ว่าประธานรวบอำนาจ ไม่บรรจุวาระของพวกเขา ทั้งสี่คนเลยไม่ยอมเข้าประชุม ก็แสดงว่าคุณศิริกัญญา รู้เห็นว่า กสทช. ทั้งสี่มีวาระอะไรที่ต้องการให้บรรจุเป็นพิเศษ และเอาสิ่งที่ต้องการมาต่อรองเพื่อเข้าประชุมอย่างนั้นหรือไม่ ที่สำคัญคุณศิริกัญญา ในฐานะ สส. ควรจะเข้าใจถึงหลักองค์ประชุมดี เพราะสภาผู้แทนราษฎรก็เพิ่งจะล่มไป 2 ครั้ง เพราะ สส.พรรคคุณศิริกัญญา ไม่ได้เข้าร่วมประชุม หากไม่ครบองค์ประชุมก็ประชุมไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะโหวตอย่างไร เพราะองค์ประชุมที่ กสทช นั้นคือ 4 คน”

อย่างไรก็ตาม ประธาน กสทช. เห็นด้วยกรณีที่น.ส.ศิริกัญญา พูดถึงการปรับปรุงอำนาจ กขค. หรือ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เพราะเป็นหน่วยงานที่สามารถ บอกได้โดยตรงว่า ปัญหา ของการแข่งขันที่จำกัดนั้นอยู่ตรงไหน เพราะความไม่พอใจคงมิใช่แค่กรณี TRUE-DTAC ควบรวมกันประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกด้านลบต่อทุนใหญ่ ที่รัฐบาลต้องช่วยกัน เพราะไม่ใช่แค่กิจการโทรคมนาคม แต่กระจายไปถึงกิจการพลังงาน กิจการค้าปลีก และ อื่นๆ ซึ่ง ในฐานะ กสทช ก็ต้องพยายาม สร้าง SMEs ให้เติบโตขึ้นด้วย แต่ก็ยากเพราะธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้การลงทุนที่สูงมาก


'พิชัย' แนะ กสทช. แสดงศักยภาพ

ด้าน พิชัย นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยอยู่ในอนุกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC ว่า เป็นห่วงถึงการที่ประชาชนบ่นถึงค่าบริการและคุณภาพ จะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ และสำนักงาน กสทช. ควรแสดงศักยภาพมากกว่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการสร้างความพึงพอใจให้ประชาขน โดยเฉพาะทางเลือกที่มีจำกัดของประชาชน กสทช ยิ่งต้องมีมาตรการเข้มข้นขึ้น เพราะประเทศอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ภาระต้นทุนหนักที่ค่าพลังงาน แต่รายได้เข้ากระเป๋าน้อยลง ประชาชนเดือดร้อนเมื่อรู้สึกค่าโทรศัพท์ไม่ถูกลงอย่างตั้งใจไว้ ทำให้ผิดหวัง แถมยังมีภัย call center เกิดขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว และรัฐบาลกำลังเร่งทำวิธีทางเพื่อช่วยเรื่องรายได้ของประชาชนโดยด่วน