ไม่พบผลการค้นหา
‘ชูวิทย์’ ยื่นศาลฟ้อง ‘สันธนะ’ ทั้งอาญา-แพ่ง ฐานกลั่นแกล้งผู้อื่นฯ เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท - ลงคำขอโทษในสื่อ 7 วัน 44 สำนัก หลังสอบเส้นทางเงินกลุ่มทุนจีนเทา เผยเตรียมยื่นข้อมูลให้ 'เสรีพิศุทธ์' ตรวจสอบพรุ่งนี้ที่สภาฯ

วันที่ 22 พ.ย. 2565 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้อง สันธนะ ประยูรรัตน์ ทั้งในคดีอาญา และคดีแพ่ง จากกรณีที่กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา โดยจะเรียกค่าเสียหาย จำนวน 100 ล้านบาท 

ชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ต้นตระกูล จำกัด เจ้าของโรงแรม Davis Hotel Corner Wing ได้ยื่นฟ้อง สันธนะ ในข้อหา “แจ้งความเท็จ อันเกี่ยวกับความผิดทางอาญา ที่มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ,สร้างพยานหลักฐานเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” พร้อมทั้งฟ้องเรียกค่าเสียหาย มูลค่า 100 ล้านบาท  

สืบเนื่องจาก วันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา สันธนะ ได้ไปแจ้งความอันเป็นเท็จ และสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ว่า โรงแรม Davis Hotel Corner Wing ของบริษัท ต้นตระกูล จำกัด หรือ ชูวิทย์ มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดภายในสถานที่ดังกล่าว และเปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยสันธนะ ได้ให้สายลับเข้าไปถ่ายภาพ และคลิปวิดีโอ มอบให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ และกล่าวหาว่า มีการมั่วสุมกันเสพยาเสพติด ทำให้ตำรวจ สน.ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานหลงเชื่อ จึงได้ไปตรวจค้นยังโรงแรมดังกล่าว แต่ไม่พบว่ามีการกระทำความผิดแต่อย่างใด 

อีกทั้ง สันธนะ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลายสำนัก อันเป็นการหมิ่นประมาทโรงแรมของนายชูวิทย์ ในทำนองเดียวกันว่า มีการมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่นเสพยาเสพติด อันเป็นการใส่ความ และใส่ร้ายกลั่นแกล้ง ให้บริษัท ต้นตระกูล จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของ โรงแรม Davis Hotel Corner Wing และนายชูวิทย์ ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังได้ยุยงส่งเสริมให้เลขาธิการ ป.ป.ส. สั่งปิดสถานบริการได้ชั่วคราว หรือพักใบอนุญาตประกอบการได้ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับธุรกิจ จึงขอเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท รวมถึงต้องจ่ายค่าฤชาธรรมเนียม และค่าทนายความแทนตนเองด้วย พร้อมทั้งจะต้องลงโฆษณาคำพิพากษา และคำขอโทษเป็นเวลา 7 วัน ในสื่อโทรทัศน์ 9 สำนัก สื่อหนังสือพิมพ์ 14 สำนัก สื่อออนไลน์ 21 สำนัก รวม 44 สำนัก อีกด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) ชูวิทย์ จะเดินทางไปรัฐสภาฯ เพื่อยื่นข้อมูลให้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และจะเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับสันธนะ ที่มองว่า เป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอย และยังถูกไล่ออกจากราชการ แต่กลับไปฟ้องร้องผู้อื่นไปทั่ว 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีที่ สันธนะ ให้ข้อมูลว่า มีทหารระดับสูงชื่อ 'แดง' หนุนหลัง ชูวิทย์ กล่าวว่า ให้พูดออกมาเลย ไม่ใช่ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจับไปกระเดียด พร้อมทั้งบอกว่า ตนรู้จักกับทหาร และตำรวจเยอะ สันธนะจึงอาจเอาไปพูดอะไรก็ได้ และบอกอีกว่า ให้มาขึ้นศาลดีกว่า สู้กันด้วยวิธีการของกฎหมาย อย่าไปใส่กระโปรงสู้ 

"ไอ้สันขวานมึงกลับใจหรือยัง ถ้ากลับใจแล้วก็มาที่นี่ได้ และพรุ่งนี้จะมีหลักฐานที่ยื่นให้ท่านเสรีพิศุทธ์ แล้วจะรู้สาเหตุว่าทำไม สันธนะ ถึงถูกไล่ออกจากตำรวจ" ชูวิทย์ กล่าว

ขณะที่ อนันต์ชัย กล่าวว่า เรื่องการเปิดเผยนายทุนต่างชาติเป็นหน้าที พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ชูวิทย์จึงออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นคู่วิวาทะไม่ใช่ สันธนะ แต่กลับกลายเป็นว่า สันธนะไปประกันตัว 'เดวิด' หนึ่งในนายทุนต่างชาติที่ ตม. พร้อมทั้งไปแจ้งความกล่าวหาว่าธุรกิจของชูวิทย์เกี่ยวข้องกับการมั่วสุมยาเสพติด 

นอกจากนี้ อนันต์ชัย ยังได้มอบพระองคุลิมาล จากวัดไผ่ล้อม ให้แก่ ชูวิทย์ เพราะมองว่า ชูวิทย์ เคยเป็นคนที่ทำธุรกิจสีเทา และวันนี้ก็ได้กลับตัวกลับใจแล้ว