ไม่พบผลการค้นหา
"จาตุรนต์" เชื่อแนวโน้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำตามนโยบายที่หาเสียงได้น้อย มองอีกแง่เป็นผลดี เพราะนโยบายที่ผ่านมาเลอะเทอะ สร้างความเสียหาย

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะมีการอภิปรายใน 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการตรวจสอบคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี และการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมเข้าไปเป็นรัฐมนตรี อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการอภิปรายนโยบาย สิ่งที่ควรตรวจสอบคือรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายอย่างไรแน่ เพราะไม่เคยมีการหารือมาก่อนระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ ในระหว่างจัดตั้งรัฐบาล และเพิ่งมาหารือในภายหลัง

สำหรับนโยบายที่ได้ประกาศไว้ในการหาเสียงต่อประชาชนสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มจะทำตามที่ประกาศไว้ได้น้อยมาก และนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนจะทำได้น้อยมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ 

นายจาตุรนต์ เชื่อว่าแม้รัฐบาลจะไม่ได้เดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน ก็จะไม่แสดงความรับผิดชอบ ชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงจัดตั้งรัฐบาลแล้ว บางพรรคบอกว่าจะไม่ร่วมกับพลเอกประยุทธ์ ก็ยังเข้าไปร่วม บางพรรคประกาศอะไรไว้พอมาดูนโยบายจริงๆ ไม่มีตามที่ประกาศ เพราะฉะนั้นบางพรรคก็จะใช้ข้ออ้างว่าเมื่อเป็นรัฐบาลผสมก็จำเป็นต้องใช้นโยบายของรัฐบาล

ท้ายที่สุดอาจไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะสามารถทำได้ตามที่ประกาศไว้กับประชาชน ซึ่งอาจนำไปสู่ประเพณีใหม่ว่าพรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องทำตามที่ประกาศไว้กับประชาชน อย่างไรก็ดีอีกมุมหนึ่ง อาจเป็นข้อดีเพราะ นโยบายที่ผ่านมาของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็นนโยบายที่เลอะเทอะและสร้างความเสียหาย บางเรื่องไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ก็เป็นผลดีเหมือนกัน แต่ในระยะยาวจะเสียหายมากกว่าเพราะในระบอบประชาธิปไตยต้องทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน

ทั้งนี้ อดีตรองนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะฝากให้พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ควบคุมอารมณ์ เพราะพลเอกประยุทธ์เป็นคนที่ไม่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ดังนั้นเมื่อฝากไปก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะทำไม่ได้อยู่แล้ว โดยนายจาตุรนต์ มองว่า การควบคุมอารมณ์จะเป็นความเสียหายเพียงส่วนเดียวเท่านั้น แต่การที่นายกรัฐมนตรีขาดวิสัยทัศน์ และได้คนมาทำงานร่วมรัฐบาลแบบไม่ได้เรื่องได้ราวเป็นจำนวนมาก จะทำให้การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนประเทศชาติล้มเหลว

อ่านเพิ่มเติม