วันที่ 18 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่วงษ์ นักกิจกรรม 2 คนขอเพิกถอนสิทธิประกันตัวของตนเอง

อมรัตน์ ชี้ว่า กรณีศาลอาญาสั่งเพิกถอนการประกันตัวเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คือ ทานตะวัน โดยประเด็นสำคัญคือ อัยการโจทก์แถลงว่าไม่เคยทราบรายละเอียดในการยื่นถอนประกันครั้งนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้ยื่นถอนประกันครั้งนี้ ขณะที่ผู้พิพากษาเป็นผู้ไต่สวนถอนประกันของ ทานตะวัน ด้วยตนเอง โดยไม่มีผู้ใดร้องขอ จึงตั้งข้อสังเกตว่า

1. มีความเหมาะสมและบังควรจะกระทำหรือไม่ หากยังดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาที่ดี ?

2. ศาลทำตัวเป็นเครื่องมือของใครหรือไม่ ?

อมรัตน์ ยกประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่า ประมวลกฎหมายไทยใช้ระบบกล่าวหา ที่ไม่ได้ให้อำนาจผู้พิพากษาไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนประกันด้วยตนเอง แม้จะมีข้ออ้างใดว่าสามารถทำเองได้ ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อนที่จะใช้วิธีการไต่สวนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อจำเลย ในทางกฎหมายต้องใช้ในทางที่เป็นคุณต่อจำเลย ไม่ใช่เป็นโทษต่อจำเลย

อมรัตน์ ยังกล่าวถึงเงื่อนไขการประกันตัวผู้ต้องหาทางการเมือง ว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน คอยควบคุมและติดตาม เช่นการติดกำไล EM เพื่อปกป้องผู้มีอำนาจในสังคม ซึ่งไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของผู้พิพากษาแต่อย่างใด

"ในฐานะผู้แทนของปวงชน จึงขอฝากดัง ๆ ไปยังผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบคดีการเมือง หวังว่าเสียงจะดังไปถึง เพื่อตระหนักว่าเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมให้คนไทยทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้มีอำนาจ” อมรัตน์ กล่าว