ไม่พบผลการค้นหา
'เพื่อไทย' สอนมวยรัฐบาลรับมือซีเซียม-137 จี้ 'ประยุทธ์' ต้องรับผิดชอบ-ขอโทษประชาชน ชดเชยค่าเสียหาย เร่งปูพรมตรวจคืนความเชื่อมั่น

วันที่ 24 มิ.ย. พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวแผนปฏิบัติการสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ประเด็นซีเซียม-137 รั่วไหล โดย ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม และ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย

ปลอดประสพ ชี้แนะว่า เรื่องต่อไปนี้แม้จะดูเหมือนวัวหายล้อมคอก แต่มีความจำเป็น ตนขอเรียกร้องรัฐบาลให้ตรวจสอบว่า ได้อนุญาตแท่งซีเซียม-137 ไปแล้วเท่าใด แม้จะเป็นความลับ แต่หากตกอยู่ในมือผู้ก่อการร้ายก็อาจใช้เป็นวัตถุระเบิดได้ ยังอยู่ที่เดิมหรือไม่ และยังอยู่ในสภาพเดิมหรือไม่ ทำให้ประชาชน จ.ปราจีนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ยังแนะนำแนวปฏิบัติ 6 ข้อ ได้แก่

1) ต้องกลับไปทำความสะอาดโรงหลอม 100% และให้คนกลางไปตรวจว่าไม่หลงเหลือสายกัมมันตรังสีแม้แต่นิดเดียว

2) การ์ดที่มีรังสีซีเซียม-137 เมื่อหลอมแล้วจะระเหยไปติดกับเครื่องกรอง และสิ่งอื่นๆ ต้องเก็บกู้ให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ปลายเข็ม ไม่ใช่วิธีเก็บใส่ถุงหรือผ้าใบกั้น เพราะไม่มั่นคง ต้องทำไซฌลคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความหนาได้มาตรฐาน แล้วสร้างเขื่อนล้อมรอบ ติดกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง จะป้องกันอย่างที่ทำอยู่ไม่ได้เด็ดขาด

3) จัดหน่วยภาคพื้นดินตรวจแบบปูพรมทุกตารางนิ้วของ จ.ปราจีนบุรี ไปจนถึง จ.ระยอง ปักธงขาวในพื้นที่ปลอดภัย

4) ตรวจเลือดประชาชนว่าร่างกายไม่ได้ปนเปื้อนสารพิษ ป้องกันอันตรายในระยะยาว

5) สำรวจและชดเชยความเสียหายให้เกษตรกร โรงแรม ร้านอาหาร ผู้ประกอบการต่างๆ เพราะมาจากความบกพร่องของหน่วยงาน

6) นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ และขอโทษประชาชน ไม่ใช่บอกเพียงว่าสั่งการไปแล้ว ต้องสนับสนุนสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสำนักงานเทคโนโลยีนิวเคลียร์ นายกฯ ควรมีส่วนชี้แจง

7) ดำเนินคดีเอาผิดกับโรงไฟฟ้าเจ้าของแท่งซีเซียม-137 ที่ไม่สามารถเก็บรักษาได้ รวมถึงโรงหลอมที่ซื้อแท่งซีเซียม-137 ดังกล่าว และร้านซื้อของเก่าที่นำไปขายต่อ

ปลอดประสพ ย้ำว่า หัวใจสำคัญคือ ตอนนี้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นของประชาชนว่าจะดำเนินชีวิต หากินได้อย่างปลอดภัยในประเทศนี้ และตามสนธิสัญญา สำนักงานปรมณูเพื่อสันติต้องแจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ที่เวียนนาให้ทราบ พร้อมยืนยันว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เรื่องเช่นนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก

"เรื่องใหญ่ก็ต้องแก้อย่างเรื่องใหญ่ ไม่ใช่ทำเป็นละลายน้ำหายไป คุณไม่อยากถูกเรียกว่านายกฯ รักษาการ อยากมีอำนาจเต็ม คุณก็ต้องทำ" ปลอดประสพ ระบุ