เนื่องจากหลักการของมาตรการจัดการบัญชีม้าที่จำเป็นต้องอายัดหรือระงับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรักษาสมดุลระหว่างการช่วยเหลือเหยื่อให้สูญเสียน้อยที่สุดกับการรักษาความสะดวกในการใช้บริการ Mobile Banking ของประชาชนทั่วไป
แม้ที่ผ่านมาจะมีมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมาก ดังนั้น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) จึงร่วมกับธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) เพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขบัญชีม้าด้วยการขยายขอบเขตการติดตามเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อกักเงินและนำกลับคืนให้เหยื่อให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริตที่อยู่ในเส้นเงินมากขึ้น
ธปท. จึงได้หารือร่วมกับ ศปอท. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และ ธพ. เพื่อปรับแนวทางการระงับธุรกรรมและกระบวนการปลดระงับ โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริต โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคการเงิน ธปท. ได้กำหนดให้ ธพ. ดำเนินการดังนี้:
ลดระยะเวลาการปลดระงับให้เร็วขึ้น จากเดิมที่อาจใช้เวลา 72 ชั่วโมง หรือ 7 วัน ตามที่กำหนดใน พ.ร.ก. เป็นไม่เกิน 4 ชม. นับจาก ศปอท. ส่งข้อมูลให้ ธพ. (ส่งข้อมูลวันละ 3 รอบ ได้แก่ 11.00 น. 15.00 น. และ 19.00 น.)
เร่งปรับปรุงการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้ชัดเจนและให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น ทั้งลักษณะการถูกระงับ และสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบต้องดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ การอายัดบัญชีกรณีที่มีการกระทำทุจริตทางการเงินจะเกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่มีหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ปปง. ได้พิสูจน์ความผิดแล้ว ซึ่งกระบวนการปลดอายัดในกรณีนี้จะแตกต่างจากการถูกระงับธุรกรรมตามข้างต้น
สำหรับการพิจารณาระงับธุรกรรมในเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งปรับกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริตโดยเร็วในขณะที่ยังต้องดูแลเหยื่อให้ยังได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม