ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์'​ นำทีม​รวมไทยสร้างชาติ​ แถลงเปิดนโยบายเศรษฐกิจแก้ปัญหาปากท้อง ขอเป็นพรรคหลักในอนาคต​ เหตุรัฐบาลผสมปัญหาเยอะ​ ยันนโยบาย รทสช.ทำได้จริง-มีแหล่งที่มาหารายได้​ บอกต้องระมัดระวังในการบริหารราชการแผ่นดิน​

วันที่ 26 เม.ย. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แถลงข่าวประเด็น "ประชาชนจะได้อะไรจากนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ" นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ พร้อมแกนนำพรรค ประกอบด้วย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ,สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ,สุชาติ ชมกลิ่น,เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ,จุติ ไกรฤกษ์ ,อนุชา นาคาศัย ,พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเริ่มต้นการแถลงว่า ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสิ่งที่เราทำกันมาแล้วหลายปี​ หลาย​อย่างก็สำเร็จและหลายอย่างยังไม่สำเร็จ และอยู่ระหว่างการดำเนินการมีปัญหาอุปสรรคมากมาย​ แต่ประเทศไทยของเรามีคน 70 กว่าล้านคน​ มีพื้นที่กว่า 5 แสนตารางกิโลเมตร​ ไม่ใช่เล็ก​ ไม่ใช่ใหญ่ แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนมีรายได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น​ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และพรรคทำงานที่จะต้องมีระบบมีวิธีคิดให้คำนึงถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่พูดไปแล้วไม่มีวิธีทำ อย่างนั้นไม่ได้ยึดระเบียบกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน 

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวต่อว่า​ ตนมีวิสัยทัศน์และเป็นวิสัยทัศน์ที่ทำมาแล้ว​คือ มั่นคง​มั่งคั่งอย่างยั่งยืน จะเห็นว่าการวาดภาพอนาคตว่า อนาคตข้างหน้าในอีกกี่ปี เราจะมีพื้นฐานอยู่บนความมั่นคงในทุกมิติ และเรื่องความมั่งคั่งของประชาชนทุกกลุ่ม​ ทุกฝ่าย​ ทุกวิชาชีพ​ ทุกรายได้ยั่งยืนไม่ใช่ทำปุ๊บปั๊บ​ แล้วไม่ทำโครงสร้างต่างให้ดีขึ้น​ ให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง​ ก็จะไปไม่ได้อยู่ดี​ ไม่เกิดความยั่งยืน

พร้อมกับกล่าวว่า ตนอยากให้นโยบายเราเป็นพรรคที่เรียกว่าเป็นพรรคหลักในอนาคต ถ้าเราสามารถที่จะเข้ามาในสภาฯได้มาก เราก็สามารถดำเนินการตรงนี้ได้ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม​ เพราะการเลือกตั้ง เราก็ได้รัฐบาลผสมหลายพรรค พอแล้วตั้งขึ้นมา​ แต่ละพรรคก็มีนโยบายของตัวเอง​ เหมือนกับนักฟุตบอลต่างสโมสรมาเข้าทีมแข่งขันทีมชาติมันก็มีปัญหาหมด เวลาการประชุมอะไรต่างๆ ก็ต้องนำคำนึงถึงนโยบายพรรคด้วย ผมขอร้องให้ทุกคนได้มองถึงนโยบายของรัฐบาลด้วยเพราะเป็นนโยบายถึงภาพรวม

พล.อ.ประยุทธ์​ ยอมรับว่า​ ทุกพรรคทุกคนมุ่งหวังที่จะทำงานในหน้าที่พันธกิจ แต่ละกระทรวงของ​แต่ละพรรค​ โดยมีการบูรณาการกับหน่วยงาน เพื่อให้ปรับ ควบคู่กับยุทธศาสตร์​ และในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค​ ตนจะพูดในสิ่งที่ตนคิด​ นำข้อมูลจากหลายฝ่ายมาประมวล ด้วยตนเอง ตนเป็นคนชอบเอามาคิดเอาข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันมาคิด มารังสรรค์​ มาสร้างและให้หน่วยงานต่างๆไปพิจารณาว่าจะทำอะไรอย่างไรได้บ้างควรจะเติมอะไรตรงไหน 

ช่วงหนึ่ง ​พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า​ แต่ละพรรคมีนโยบาย แต่ตนจะไม่ไปแตะต้องอะไรทั้งสิ้น​ เรื่องนโยบายพรรคอื่น​ แต่คาดหวังว่า​ หากได้เป็นรัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบให้อยู่ในกรอบ เพราะฉะนั้นประเด็นที่ควรจะคิดกันต่อไปในเรื่องอภิปรายกำหนดนโยบายต่างๆ จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเป้าหมายนโยบายคืออะไรและผลที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่มีนโยบายออกไปแล้วหาเงินไม่ได้ มันทำไม่ได้หรอก แล้วใครจะได้ประโยชน์ใครจะได้รับผลกระทบมีผลข้างเคียงอะไรอย่างไร

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์​ ​กล่าวแนะนำทีม รทสช.ว่า นี่คือบุคลากรที่มีคุณภาพทั้งสิ้น​ ทั้งทำแล้ว​ ทำอยู่แล้ว​ ก็มีโอกาสที่จะทำต่อ หลายท่านก็ยังทำงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พรรคที่มีเฉพาะคนอายุเยอะๆ ไม่ใช่จริงๆแล้วมีทุกช่วงวัย ซึ่งประเทศไทยมีหลายช่วงวัย​ เราดูแลคนทุกๆวัยอยู่​ นี่คือประเทศไทยของเรา ประชาชนของเรา​ หากรอฟังเฉพาะให้ไอ้นี่ได้​ ไอ้นั่น​ได้​ แล้ว​ไม่ต่อเนื่อง​ ไม่ยึดโยงกับสิ่งที่ตนพูด​ จะทำให้ทุกอย่างไปต่อไม่ได้ เราต้องระมัดระวังในการบริหารราชการแผ่นดิน เราจะต้องทำในสิ่งที่ทำได้​ ทำให้เป็น​ ทำให้ถูก​ ทำให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย​ ตรงกับสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้ได้มากที่สุด 

เพราะฉะนั้นนโยบายที่แถลงจะเกี่ยวข้องกับปากท้อง และความเป็นอยู่ของประชาชน หลายเรื่องเป็นนโยบายที่ทำแล้วทำอยู่ทำต่อนโยบายใน 1 ปี​ 2 ปี เราจะทำอะไรบ้าง​ จะค่อยๆปล่อยออกไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับอายุรัฐบาล​ แต่หากเอาหลักการเหล่านี้มาก็จะต่อเนื่องไปโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นได้จริงมีการหาข้อมูลสำรวจเป็นข้อมูลจากหลายภาคส่วน และมาช่วยกันดูที่ใช้วิธีการอย่างไร​ และจะใช้งบประมาณเท่าใด​ มีเงินหรือไม่​ และจะหาเงินอย่างไร​ มาจากที่ไหน 

พร้อมยืนยันว่า นโยบายที่แถลงในวันนี้สามารถทำได้อย่างแน่นอน​ แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไร ให้ประเทศที่มีรายได้เสียเงินล้านล้านบาท เพื่อที่จะสามารถดูแลคนได้ทุกกลุ่มทุกเป้าหมายทำให้เขามีชีวิตคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นถ้าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ที่ตนเป็นกังวลคือการศึกษา​ การเกษตร ก็คือคนส่วนใหญ่ของประเทศจะต้องมีการปรับผมพยายามทำมาหลายปีแล้วจะต้องไปดูเรื่องกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการศึกษา แต่ทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือ​ ความเข้าใจ​ เราบังคับไม่ได้ หากบังคับก็ไม่สำเร็จสักที​ 

พร้อมกับระบุอีกว่า​ เพราะประชาชนคือความรับผิดชอบของรัฐบาล และยังต้องปรับปรุงและยังต้องแก้ไข ต้องเจอเรื่องพวกนี้ทั้งนั้นไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ผมเป็นประธานยุทธศาสตร์ ทุกวันพูดจะนึกว่าทำเองข้างล่างไม่ไหว ต้องให้คนที่เป็นคนทำได้พูด

ขณะที่ พีระพันธุ์ ช่วงหนึ่งกล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ หลายคนบอกว่า พรรคเราเป็นประเทศเกิดใหม่ แต่พรรคเราเป็นพรรคที่มีคุณภาพและมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ฉะนั้นการกำหนดนโยบายต่างๆ จึงมีที่มาจริงๆ แต่สิ่งสำคัญในการกำหนดนโยบายคือ ไม่ได้คิดแต่จะเกทับทับ แต่ต้องสะท้อนจากปัญหาประชาชนอย่างแท้จริง โดยเราจะเริ่มดูตั้งแต่เด็กแรกเกิด จนถึงสูงอายุ

สุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า แนวนโยบายและแนวคิดของทีมเศรษฐกิจพรรค รทสช. หลายคนมักจะพูดว่าตั้งแต่ปี 52 เป็นต้น มาประเทศไทยย่ำอยู่กับที่และเป็นรองประเทศในอาเซียน เสถียรภาพความเห็นต่างก็มีตลอดเวลา แต่ปี 57 เป็นต้นมา ความสงบกลับคืน โดยรัฐบาลตอนนั้นก็มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อดึงดูดการบงทุนไม่ให้ย่ำอยู่กับที่ ซึ่งตลอด 8 ปี การวางโครงสร้างสาธารณูปโภค พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้มองแค่เศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน แต่เรามองเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเข้ามาด้วย

สำหรับนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เน้นลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเท่าเทียม มีรายละเอียด ดังนี้

เพิ่มรายได้ประเทศไทยปีละ 4 ล้านล้านบาท

• เศรษฐกิจโตปีละ 5%

• รายได้ต่อคนเพิ่มขึ้นปีละ 20,000 บาท

• สร้างงานเพิ่ม 6.25 แสนตำแหน่ง

เพิ่มศักยภาพประเทศไทย

• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย 

• ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และ ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค 

• เป็นศูนย์กลางภูมิภาค ประตูสู่อาเซียนและจีนตอนใต้ 

• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 

• สร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ 

ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและกระจายเม็ดเงินถึงคนตัวเล็ก

• ไฟฟ้าราคาถูกสำหรับผู้มีรายได้น้อย

• คนละครึ่ง ภาค 2

• เที่ยวด้วยกันเมืองรอง ภาค 2

• เพิ่มเงินสมทบของรัฐให้แรงงานในระบบประกันสังคมมีรายได้ไม่ต่ำกว่าคนละ 10,000 บาทต่อเดือน

กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ช่วยเหลือเกษตรกร และชาวประมง

• นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี เพื่อลดราคาน้ำมัน

• โครงการโคล้านครอบครัว

• ลดต้นทุนเกษตรกร ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาทไม่เกิน 5 ไร่

• ปุ๋ย ไฟฟ้า น้ำมัน ราคาถูกสำหรับเกษตรกร

• แก้กฎหมายประมง ดูแลประมงพื้นบ้าน ปรับการทำงานของหน่วยงานของรัฐให้ความเป็นธรรม

สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

• เน็ตประชารัฐ

• พร้อมเพย์ แอปเป๋าตัง แอปถุงเงิน

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

• ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบคลาวด์

แก้หนี้

• "แช่แข็ง"หนี้ สูงสุด 3 ปี ตามเงื่อนไขโครงการ

• แก้กฎหมายเครดิตบูโรให้ความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้

• แก้หนี้นอกระบบและมีที่พึ่งยามยากด้วย"กองทุนฉุกเฉินประชาชน"

• สมาชิกสหกรณ์ใช้หุ้นสหกรณ์ชำระหนี้สหกรณ์ได้และใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ข้ามเขตสหกรณ์ได้

• แก้หนี้โควิดจบใน 12 เดือน

• แก้หนี้ กยศ. แก้หนี้กองทุนหมู่บ้าน และหนี้ภาครัฐด้วยงาน

กองทุนฉุกเฉินประชาชน

• วงเงิน 30,000 ล้านบาท เป็นที่พึ่งยามลำบากให้ประชาชนปลดพันธนาการเงินนอกระบบ

ประกันสังคมถ้วนหน้าทุกอาชีพ

• คืนเงินสะสมชราภาพ 30% ผู้ประกันตนมาตรา 33

• ข้าราชการเบิกเงินสมทบส่วนตนจาก กบข. ได้ 30%

เข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข

• 1 อำเภอ (เขต) 1 โรงพยาบาลวิสาหกิจเพื่อสังคม 1 ศูนย์ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ป่วยโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย

ดูแลกลุ่มเปราะบาง

• เบี้ยผู้สูงอายุคนละ 1,000 บาท เท่ากันทุกช่วงอายุ

• เพิ่มเงินช่วยดูแลบุตรแรกเกิดถึง 10 ปี เดือนละ 1,000 บาท(สำหรับแรงงานในระบบประกันสังคม)

ลดค่าครองชีพ

• นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี

• ไฟฟ้าราคาถูกสำหรับเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย

• โครงการ "แท๊กซี่เพื่อสังคม"

• หักลดหย่อนภาษีค่ารักษาพยาบาลตนเองและพ่อแม่สูงสุด 60,000 บาท

• ออมเงินพร้อมหักลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน LTF

บัตรสวัสดิการพลัส

• เพิ่มสิทธิเดือนละ 1,000 บาท/คน

• กู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท/คน

สร้างโอกาสเด็กไทย

• โครงการ "อยากเรียนอะไรต้องได้เรียน"

• ทุนการศึกษาอาชีวะ 100 ทุน ต่อ 1 อำเภอ (เขต) ทุนละ 10,000 บาท

• โครงการ "เรียนจบมีงานทำ"

รื้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคการทำกิน

• แก้กฎหมายได้ที่ทำกิน ไม่โดนไล่ที่ ไม่ถูกฟ้อง

• พ.ร.บ.ความสะดวก ลดขั้นตอนทางกฎหมาย1,100 ขั้นตอน

ลดฝุ่น PM 2.5

• ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ปัญหามลภาวะเป็นพิษแบบSingle Command รวม PM 2.5

• เพิ่มรถเมล์ไฟฟ้า

• ส่งเสริมรถอีวี

• ใช้มาตรฐานยูโร 5 กับรถใหม่ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67

• เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด 50%

พัฒนาที่อยู่อาศัย

• ต่อยอดโครงการ "บ้านสุขประชา" มีบ้านมีงานทำ

• สินเชื่อบ้านล้านหลังสำหรับผู้มีรายได้น้อย เฟสที่ 3

• บ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร

• ฟื้นฟูแฟลตดินแดง เฟส 2