ไม่พบผลการค้นหา
มูลนิธิโนเบลกล่าวว่า รัสเซีย เบลารุส และอิหร่าน ได้รับเชิญให้กลับมาเข้าร่วมงานเลี้ยงรางวัลโนเบล ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนอีกครั้ง หลังจากกลุ่มประเทศเหล่านี้ไม่ได้รับคำเชิญในงานเลี้ยงเมื่อปีที่แล้ว อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามในยูเครน

มูลนิธิโนเบลกล่าวอีกว่า ทางมูลนิธิพยายามที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แม้แต่ผู้ที่ไม่มีคุณค่าเดียวกับรางวัลโนเบลก็ตาม

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสวีเดนคนหนึ่ง ออกมาวิจารณ์คำเชิญของมูลนิธิโนเบลต่อรัสเซีย เบลารุส และอิหร่านในปีนี้ว่า "ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง" ในขณะที่มูลนิธิโนเบลยังได้ออกคำเชิญร่วมงานเลี้ยงแก่ จิมมี่ เอเคสสัน หัวหน้าพรรคเดโมแครตสวีเดน ที่มีนโยบายต่อต้านผู้อพยพ อย่างไรก็ดี เอเคสสันระบุว่าเขาจะไม่เดินทางไปเข้าร่วมงาน เนื่องจากเหตุผลว่าเขาไม่ว่าง

ทั้งนี้ ในแต่ละปี มูลนิธิโนเบลจะมีพิธีมอบรางวัลโนเบล 5 ใน 6 รางวัลที่กรุงสตอกโฮล์ม ในขณะที่รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะจัดขึ้นที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

เมื่อปีที่แล้ว มูลนิธิโนเบลกล่าวว่า เอกอัครราชทูตจากรัสเซียและเบลารุส จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยง "เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย" ทั้งนี้ เบลารุสเป็นพันธมิตรรายสำคัญของรัสเซีย และ อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ได้ให้การสนับสนุน "ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร" ของรัสเซีย ในการรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ อิหร่านยังไม่ได้รับคำเชิญในปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงอย่างรุนแรง

วิดาร์ เฮลเกเซน กรรมการบริหารมูลนิธิโนเบล ระบุว่าการตัดสินใจที่จะเชิญประเทศต่างๆ เหล่านี้ กลับมาเข้าร่วมงานเลี้ยงรางวัลโนเบลอีกครั้งนั้น "เป็นที่ชัดเจนว่าโลกถูกแบ่งออกเป็นฝักฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการพูดคุยระหว่างผู้ที่มีมุมมองต่างกันกำลังลดลง เพื่อตอบโต้แนวโน้มนี้ เรากำลังขยายคำเชิญของเรา ให้มีการเฉลิมฉลองและทำความเข้าใจต่อรางวัลโนเบล และการให้ความความสำคัญของวิทยาศาสตร์เสรี วัฒนธรรมเสรี และสังคมที่เสรีและสงบสุข"

คาริน คาร์ลสโบร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีนิยมสวีเดน กล่าวหามูลนิธิโนเบลว่ากำลังสร้าง "แบบอย่างที่อันตราย" ด้วยการ "เปิดไฟเขียวให้เชิญรัสเซียเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองสุดหรู ขณะที่มีขีปนาวุธยิงถล่มศูนย์วัฒนธรรมของยูเครนและสังหารเด็กๆ"

ในการให้สัมภาษณ์กับวิทยุสาธารณะของสวีเดน คาร์ลสโบรเรียกรัสเซีย เบลารุส และอิหร่านว่าเป็น "รัฐอันธพาล" ที่ "กดขี่พลเมืองของตน ทำสงคราม และสร้างความหวาดกลัวต่อประชาชนของตนเองและประเทศเพื่อนบ้าน"

“พวกเขาเป็นประเทศที่ไม่ยอมรับคุณค่าประชาธิปไตยในทางใดทางหนึ่ง” คาร์ลสโบรกล่าว “มีสงครามเกิดขึ้นในยุโรป (พวกเขาใช้) ตำแหน่งที่ไร้เดียงสาอย่างไม่น่าเชื่อ มันบ่อนทำลายความสามัคคีที่เราต้องการทั่วทั้งสังคม”


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-66678882?fbclid=IwAR2VtylZIF84sIY2um8MZ0ayR__20i9g-nYi1WU_uX8s03HJHT70h-Z9RWc