วันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลเจ้าเง็กฮกตึ๊ง (เจ้าพ่อเฮ่งเจีย) พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดย อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และ วิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่เขตตลิ่งชัน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมแนะนำ ทันตแพทย์ กันตพงศ์ ดีชัยยะ ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตตลิ่งชัน
อุตตม กล่าวถึงทิศทางของพรรคสร้างอนาคตไทยว่า พรรคยังเดินหน้าขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้แต่เดิมอย่างเต็มที่ เช่นวันนี้แกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. กว่า 20 ชีวิตก็มาพบปะและนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนชาวตลิ่งชันในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันมงคลที่มาไหว้ศาลเจ้าพ่อเฮ่งเจียเช่นเดียวกัน
สำหรับความคืบหน้าของการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่นนั้น อุตตม ยอมรับว่าตามที่เคยมีการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น และตั้งใจจะเป็นพันธมิตรในการทำงานต่อกันได้ ตราบใดที่นำไปสู่การทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
"ตอนนี้ยังมีการพูดคุย ยังไม่มีข้อยุติ พรรคสร้างอนาคตไทยยังคงเปิดกว้างในการทำงานหารือกับกลุ่มการเมืองกับกลุ่มประชาชนที่มีเงื่อนไขสอดคล้องกัน”
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาควบรวมพรรคพรรคไทยสร้างไทย ที่เคยระบุว่าปลายเดือน ม.ค. นี้จะมีความชัดเจน อุตตม เผยว่า วันนี้ยังมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่ แต่ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องของการหารือ เมื่อใดที่มีข้อสรุปก็จะแจ้งให้ทราบทันทีที่พร้อม เพราะตั้งใจว่าการทำงานครั้งนี้ว่าการทำงานเป็นพันธมิตรจะทำให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่ใช่หวังเพื่อจะได้จำนวน แต่รวมแล้วสามารถมีพลังเสริม ทำงานให้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น
สนธิรัตน์ เสริมว่า การทำการเมืองที่สำคัญคือการคงอุดมการณ์การเมือง จากการประกาศตัวเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับพรรคไทยสร้างไทยก็มีพัฒนาการมาตลอด และยังมีหลายรูปแบบ พรรคสร้างอนาคตไทยก็ยังคงขับเคลื่อนต่อไป ขอให้ติดตามต่อไป คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์จากนี้ พรรคสร้างอนาคตไทยจะประกาศจุดยืนทางการเมือง
ส่วนความเป็นไปได้ในการจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น อุตตม ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการหารือกัน พร้อมย้ำว่าต้องดูที่อุดมการณ์และผลการเลือกตั้งที่ออกมา แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องจับมือกับพรรคได้จำนวน ส.ส. มากที่สุดเท่านั้น
อุตตม ยังเน้นย้ำว่า แม้จะประกาศความชัดเจนได้ในอีก 2 สัปดาห์ ก็ถือว่าไม่เสียเปรียบพรรคการเมืองอื่น เราะพรรคเดินหน้าเต็มที่อยู่แล้ว และไม่ได้ชะงักในเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่า สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นผู้มีความพร้อม เหมาะสม พรรคสร้างอนาคตไทยเชื่อว่า สมคิด พร้อมเป็นผู้นำประเทศได้