ไม่พบผลการค้นหา
กรมการท่องเที่ยวเปิดช่อง 'ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว' ยื่นขอรับคืนเงินหลักประกันในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดตามกฎกระทรวงใหม่ เยียวยาผลกระทบโควิด-19

นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจการท่องเที่ยวเกิดความชะงักงัน ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานและความเป็นอยู่ของแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยวเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยการคืนหลักประกันของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ร้อยละ 70 ของวงเงินประกัน ซึ่งขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว และอยู่ระหว่างขั้นตอนของกฎหมายที่จะออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคาดว่าจะมีผลใช้บังคับได้ภายในเดือน พ.ค. 2563 นี้

โดยกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินหลักประกัน พ.ศ. 2563 จะช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทั้งรายเดิมและรายใหม่ โดยกรมการท่องเที่ยวจะคืนเงินหลักประกันของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและปลดภาระผูกพันตามหนังสือค้ำประกันเฉพาะในส่วนที่ได้วางไว้เกินกว่าจำนวนที่กำหนดตามกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • 1.การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทเฉพาะพื้นที่ ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท
  • 2.การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทภายในประเทศ ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท
  • 3. การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท
  • 4. การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภททั่วไป ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท

ทั้งนี้ กรณีผู้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายใหม่ จะวางเงินหลักประกันตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงใหม่ ภายหลังราชกิจจานุเบกษามีผลใช้บังคับแล้ว ส่วนกรณีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายเดิม (ซึ่งวางหลักประกันไว้แล้ว) สามารถยื่นคำขอคืนเงินหลักประกันที่ได้วางไว้เกินกว่าจำนวนที่กำหนดตามกฎกระทรวงใหม่ ได้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.2563 เป็นต้นไป ณ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขากรุงเทพมหานคร และสาขาต่างจังหวัดทั้ง 5 สาขา โดยผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะได้รับเงินหลักประกันคืนภายหลังราชกิจจานุเบกษามีผลใช้บังคับแล้วเท่านั้น 

สำหรับ วิธีการยื่นเอกสารขอรับหลักประกันส่วนที่วางไว้เกินคืน ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องยื่นเอกสารต่อสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาที่สถานประกอบธุรกิจนำเที่ยวตั้งอยู่ โดยสามารถยื่นได้ 2 ช่องทาง คือ

ช่องทางที่ 1 ยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขากรุงเทพมหานครและสาขาต่างจังหวัด ทั้ง 5 สาขา และ ช่องทางที่ 2 ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาที่สถานประกอบธุรกิจนำเที่ยวตั้งอยู่

ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวสามารถส่งเอกสารผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) ของแต่ละสาขา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารก่อนยื่นฉบับจริงด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์อีกครั้งหนึ่ง

ขั้นตอนการยื่นขอรับเงินหลักประกันคืนของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมี 4 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวยื่นเอกสารขอรับหลักประกันคืน

ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร

ขั้นตอนที่ 3 เจ้าหน้าที่การเงินตรวจสอบหลักประกัน

ขั้นตอนที่ 4 คืนเงินผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมการท่องเที่ยว ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 2 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 หมายเลขโทรศัพท์ 09 6406 7359 หรือ 09 6339 5425 และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.dot.go.th เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรมการท่องเที่ยว Department of Tourism


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :