วันที่ 16 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการปรับลดภาษีสรรพามิตน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน จนถึงวันที่ 19 เม.ย. 2567 ว่า จะมีการปรับลดลง 1 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยเหลือภาระในเรื่องราคาพลังงาน
จุลพันธ์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำคือเราใช้กลไกในการช่วยเหลือช่วงต้น จะเห็นได้ว่า รัฐบาลชุดก่อนหน้า มีบางช่วงที่ให้การอุดหนุนถึง 5 บาทต่อลิตร แต่รัฐบาลนี้เข้ามาปรับลดราคาครั้งที่แล้วไว้ที่ 2.50 บาทต่อลิตร ครั้งนี้ลดราคา 1 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นไปตามกลไกที่เราวางไว้ คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างราคาพลังงานให้เกิดความยั่งยืน โดยไม่เป็นภาระงบประมาณระยะยาว และมีการดูเทรนด์ราคาพลังงานของตลอดโลกด้วย ซึ่งการอุดหนุนช่วยเหลือในระดับนี้ สามารถตรึงราคาพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลได้ในระดับที่เหมาะสม
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานไม่อยากให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร การปรับลดลง 1 บาทต่อลิตร จะต้องใช้เงินจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น เป็นการบริหารจัดการภายในที่สามารถดูแลเรื่องราคาให้เป็นไปตามเป้าได้ พร้อมย้ำว่า เราไม่มีเป้าเรื่องราคา ไม่มีการบอกว่าต้องเกินหรือต่ำกว่าเท่าไหร่ ไม่มีนโยบายให้ตรึงราคาน้ำมันไว้ที่กี่บาท
สำหรับการปรับลดราคาพลังงานหลังจากช่วง 3 เดือนนี้ ตนยังตอบไม่ได้ โดยการปรับลดราคาพลังงานในครั้งนี้ จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนอยากให้ตรึงราคาน้ำมันไปจนถึงช่วงเดือน ส.ค.นั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในช่วง เม.ย. คงจะได้คำตอบจากกระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลังที่ต้องทำงานร่วมกัน
ส่วนราคาน้ำมันจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่นั้น จุลพันธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย แต่ยืนยันว่า จะอยู่ในระดับราคาที่มีความเหมาะสม และสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับภาคเอกชนไทยได้ โดยขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน