'ศักดิ์สยาม' รมว.คมนาคม สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องดูข้อกฎหมายทั้งหมด ปมพิพาทโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ด้าน CPN ชี้แจง ทำโครงการมา 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับอนุญาตและก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน พร้อมเปิดบริการ 31 ส.ค. นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ประเด็นข้อพิพาทระหว่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ในการก่อสร้างโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ เบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทั้งหมด
โดยย้ำว่า ถ้าถูกก็คือถูก ไม่ถูกก็คือไม่ถูก ไม่มีอย่างอื่น ขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยก็ได้ลงไปดูในเรื่องนี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.ผังเมือง โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวเฉพาะกับสนามบิน ซึ่ง ทอท. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ดูอยู่แล้ว
"ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะคุยของเขา (ซีพีเอ็น) ถ้าผมดูก็จะดูของผม ไม่ต้องสั่งใคร ทั้งหมดต้องตอบกับประชาชนให้ได้ รวมทั้งผู้ประกอบการด้วย" นายศักดิ์สยาม กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 ส.ค. นี้ เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางนัดไต่สวน คดีบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 2 คน ยื่นฟ้อง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและกระทำละเมิด กรณีผู้ฟ้องได้รับอนุญาตให้ทำทางเชื่อมในเขตทางหลวงได้เป็นการชั่วคราวจากผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน แต่เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562 ผู้ถูกฟ้องคดีตั้งเต็นท์ขวางทางเข้าออกโครงการและไม่อนุญาตให้ผู้ใดใช้ทางดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
เซ็นทรัล กางไทม์ไลน์ ก่อสร้าง 5 ปีขออนุญาตผ่านมาทุกด่าน
ด้านบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558-2562) ในการพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ บริษัทฯ ได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง มีความโปร่งใสพร้อมให้ตรวจสอบ ดังนี้
- พ.ศ. 2558 บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบที่ดินว่า ที่ดินดังกล่าวนั้นสามารถพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจได้ตาม พ.ร.บ. ผังเมือง และที่ดินติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ไม่ใช่ที่ดินตาบอดแต่อย่างใด
- วันที่ 22 ธ.ค. 2559 บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินตาม พ.ร.บ. ผังเมือง ว่า พื้นที่สีเขียวบริเวณ ก1-10 ของผังเมืองสมุทรปราการ ยังมีพื้นที่เพียงพอให้บริษัทฯ สร้างโครงการนี้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- วันที่ 30 ม.ค. 2560 และ 25 ก.ค. 2562 บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและแบบปรับปรุง ภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
- วันที่ 24 เม.ย. 2561 ได้ใบอนุญาตการก่อสร้างอาคาร (อ1) จาก อบต. บางโฉลง
- วันที่ 24 เม.ย. 2561 บริษัทฯ ได้แถลงข่าวเปิดตัวครั้งแรกโครงการต่อสาธารณชน
- วันที่ 10 เม.ย. 2562 กรมทางหลวงอนุญาตให้การประปา ใช้พื้นที่ไหล่ทางในการดำเนินการวางท่อเข้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ
- วันที่ 24 ก.ค. 2562 กรมทางหลวงอนุญาตให้ทำทางเชื่อมเข้าออก ขยายผิวจราจร และปรับปรุงทางเท้า ซึ่งรวมไปถึงไหล่ทางด้วย เช่นเดียวกับที่เคยได้อนุมัติเชื่อมทางให้กับผู้ร้องขอรายอื่นบนถนนสายนี้ทั้งสิ้น 37 ราย รวมถึง ทอท. ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยขออนุญาตจากกรมทางหลวงมาโดยตลอด และล่าสุดเมื่อ 14 พ.ค. 2562 ได้มีหนังสือจากกรมทางหลวงอนุญาตให้ ทอท. เดินท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินและบ่อพัก ทั้งนี้ ไม่ปรากฏว่าเคยมีผู้ใช้ประโยชน์รายใด ยื่นขออนุญาตเชื่อมทางจาก ทอท. เลย
- วันที่ 14 ส.ค. 2562 บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเปิดใช้อาคาร (อ6) จาก อบต. บางโฉลง
- วันที่ 22 ส.ค. 2562 ทอท. มาปิดกั้นทางเข้าออก หน้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ
- วันที่ 31 ส.ค. 2562 มีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
ดังนั้น บริษัทฯ ได้ใบอนุญาตอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สำหรับประเด็นที่อาจมีความเข้าใจผิด ทางซีพีเอ็นขอชี้แจงให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง 3 ประเด็น ได้แก่
1. พื้นที่โครงการมีการเชื่อมทางเข้าออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของภาครัฐ (ที่ดินราชพัสดุ ลำรางสาธารณะ) และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอด
- ที่ดินที่ราชพัสดุได้จัดหาและมอบให้กรมทางหลวงสร้างเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 และให้กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแล เป็นพื้นที่คนละส่วนกับที่ดินที่เวนคืนของสนามบินสุวรรณภูมิที่ ทอท. ดูแล
- โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ตั้งอยู่บนที่ดินที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 จึงมีการขออนุญาตโดยตรงจากกรมทางหลวง ซึ่งมีอำนาจเต็มในการอนุมัติการเชื่อมทางแต่ผู้เดียวเท่านั้น
- พื้นที่ที่กรมทางหลวงดูแลรับผิดชอบ หมายรวมถึง เขตทาง และไหล่ทาง ซึ่งติดกับที่ดินของเอกชน 2 ข้างถนน ซึ่งที่ดินของโครงการมีแนวเขตแนบสนิทต่อเนื่องกับเขตทางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ดังนั้น ที่ดินของโครงการจึงไม่ใช่ที่ดินตาบอด
2. บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด
- โครงการนี้ได้ปฏิบัติตามและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างในพื้นที่สีเขียว บริเวณ ก1-10 ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว โดยโครงการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายผังเมือง ไม่ได้มีการขอปรับผังเมืองแต่อย่างใด
3. บริษัทฯ ได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อย่างถูกต้อง
- มีความปลอดภัยต่อการบิน ไม่ได้ละเมิดกฏใดๆ ทั้งความสูง ไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบิน หรือรบกวนการบินแต่อย่างใด โดยแบบมีความสูง ที่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเป็น���ปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จึงไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการติดธงแดงตามที่มีการกล่าวอ้าง
ซีพีเอ็นยังยืนยันว่า ยินดีให้มีการตรวจสอบจากภาครัฐ เพื่อแสดงความจริงใจ และยินดีให้ความร่วมมือ ชี้แจงในทุกประเด็นกับภาครัฐ เพื่อให้การร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อร่วมกันเดินหน้าประเทศไทย และเพื่อให้บริษัทฯ ร้านค้ากว่า 170 ร้านค้า และพนักงานกว่า 1,000 คน พร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดการเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :