ถึงแม้ว่างานศพของอาเบะจะถูกจัดขึ้นแบบปิดต่อสาธารณะ แต่ประชาชนชาวญี่ปุ่นยังคงเดินทางหลั่งไหลมายังบริเวณวัด พร้อมกับการแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์ ตลอดจนการวางดอกไม้รำลึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของตน ถึงแม้ว่าอาเบะเองจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายกรณี แต่ญี่ปุ่นภายใต้การนำของอาเบะยังคงเป็นที่จดจำของคนทั้งประเทศและทั่วโลก
อาเบะเสียชีวิตลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณเมืองนาระ หลังจากถูกสังหารโดยชายว่างงานวัย 41 ปี อดีตกองกำลังสังกัดกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นทางน้ำ ที่ประดิษฐ์ปืนขึ้นเพื่อนำมาใช้สังหารอาเบะ ทั้งนี้ คนร้ายอ้างว่าตนรู้สึกโกรธแค้นอาเบะ เนื่องจากตนเชื่อว่าอาเบะเกี่ยวข้องกับกลุ่มลัทธิหนึ่ง ที่มารดาของตนนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้จนครอบครัวเกิดความขัดสน อย่างไรก็ดี ลัทธิดังกล่าวได้อกมาแถลงยืนยันว่า มารดาของคนร้ายเข้าร่วมกิจกรรมของลัทธิจริง แต่อาเบะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทางลัทธิ
ร่างของอาเบะที่เสียชีวิตลงในวัย 67 ปี ถูกนำกลับจากเมืองนาระมายังกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ก่อนเคลื่อนย้ายมาพักเอาไว้ที่วัดโซโจจิ ทั้งนี้ งานศพถูกจัดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดย อากิ อาเบะ ภรรยาหม้ายของอาเบะจะเป็นประธานในงานศพของสามีของเธอ โดยเมื่อการจัดพิธีศพแล้วเสร็จ ร่างของอาเบะจะถูกเคลื่อนย้ายผ่านใจกลางกรุงโตเกียว ก่อนนำไปฌาปนกิจที่สุสานคิริกายะในวันนี้ (12 ก.ค.)
แขกที่เดินทางมาเข้าร่วมงานศพของอาเบะมีประมาณ 2,500 คน รวมถึง ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และ เคนตะ อิซูมิ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นอกจากนี้ ยังมีรองประธานาธิบดีของไต้หวันอย่าง วิลเลียม ไล ที่เดินทางมาในนามส่วนตัว เพื่อเข้าร่วมงานศพของอาเบะด้วย ทั้งนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จจักรพรรดินีมาซาโกะ ได้ทรงส่งดอกไม้ และให้มหาดเล็กเผาเครื่องหอมในช่วงเวลาเช้า เพื่อไว้อาลัยต่อการจากไปของอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย
งานศพของอาเบะถูกจัดขึ้นใจกลางกรุงโตเกียว ณ วัดสำคัญตั้งแต่สมัยเอโดะ ที่มีกระดูกของนักรบสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเก็บเอาไว้อยู่ นอกจากนี้ ร่างของอาเบะในพิธีศพยังอยู่ห่างกันไปไม่ไกลจากใจกลางเขตนากาตาโชะ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของรัฐสภาญี่ปุ่น สถานที่ทำงานทางการเมืองครั้งแรกของอาเบะในวัยหนุ่ม เมื่อเขาได้รับเลือกเป็น ส.ส. เมื่อปี 2536 และทำเนียบนายกรัฐมนตรีของประเทศที่อาเบะเคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2549 ถึง 2550 และ 2555 ถึง 2563
ประชาชนยังคงหลั่งไหลมาวางดอกไม้ และสวดมนต์เพื่อไว้อาลัยต่อการจากไปของอดีตนายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน โดยการตายของอาเบะถูกคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้ญี่ปุ่นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นเองมีอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำมาก โดยเฉพาะอาชญากรรมที่เกิดจากการใช้อาวุธปืน ทั้งนี้ ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีรายงานเหตุการใช้ปืนเพียงแค่ 10 ครั้งเท่านั้น การตายของอาเบะจากอาวุธปืนประดิษฐ์จึงสร้างความหวาดผวาให้แก่ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
ก่อนการจัดงานศพของอาเบะ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้แวะญี่ปุ่น ก่อนการเดินทางมายังไทยและประเทศในอาเซียน เพื่อเข้าไว้อาลัยต่อการจากไปของอาเบะด้วย นอกจากนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มีสารส่งมาจากนานาชาติกว่า 2,000 สาร เพื่อรำลึกถึงอาเบะ นอกจากนี้ สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ยังได้เปิดให้บุคคลเข้าร่วมลงชื่อไว้อาลัยต่อการจากไปของอาเบะด้วย
ที่มา: