ไอลอว์เปิดแคมเปญเสนอคำถามประชามติโดยประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. โดยรัฐธรรมนูญระบุว่า ต้องใช้รายชื่อประชาชน 50,000 คนเพื่อเสนอต่อสภา จึงมีการรวบรวมรายชื่อทั้งออนไลน์และกระดาษ จนกระทั่งได้ครบทั้ง 50,000 รายชื่อแล้วเมื่อ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงดึกของวันที่ 22 ส.ค.ไอลอว์แจ้งว่า เพิ่งได้รับแจ้งจาก กกต.ว่า ลงชื่อผ่านทางออนไลน์ไม่ได้ จึงเกิดความโกลาหลต้องรวบรวมรายชื่อใหม่จำนวนมาก ภายในเวลากระชั้นชิด ทางไลลอว์ระบุว่าพยายามหาความชัดเจนว่าลงชื่อออนไลน์ได้หรือไม่กับ กกต. แต่ไม่เคยได้รับทราบหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน

เดทไลน์หรือวันสุดท้ายที่ไอลอว์ต้องรวบรวมเบื้องต้น จะมีถึงวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) ส่วนสาเหตุที่ต้องเร่งรีบรวบรวมรายชื่อ เนื่องจากรัฐบาลประกาศว่า ประชุม ครม.นัดแรก จะเคาะคำถามประชามติเลย ไอลอว์ระบุว่า หากส่งช้าจะไม่ทันการณ์ 

ทั้งนี้ คำถามประชามติที่มีการรณรงค์รวบรวมรายชื่อกันอยู่นี้มีอยู่ 2 ประเด็นหลัก เห็นด้วยหรือไม่ที่จะ 1.ร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 2. โดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 

ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค. เวลา 17.56 น. ไอลอว์ประกาศในเพจระบุว่า สามารถรวบรวมรายชื่อ 'ฉบับกระดาษ' ได้แล้วถึง 26,1xx ภายในเวลา 2 วัน โดยตัวเลขนี้ นับเฉพาะกระดาษที่มาถึงสำนักงาน iLaw แล้วเท่านั้น ยังไม่นับจุดลงขื่อต่างๆ และเครือข่ายที่เก็บไว้และกำลังจัดส่งมา ไม่นับไปรษณีย์ที่กำลังเดินทาง

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการไอลอว์ โพสต์ในเฟซบุ๊กถึงบรรยากาศความตื่นตัวของประชาชนว่า 

"ผมเชื่อว่าเป็นไปได้

วันนี้ยุ่งมาก คนถามตลอดทั้งวันว่าได้รายชื่อเท่าไรแล้ว แต่ตอบไม่ได้เพราะว่านับไม่ทันอ่ะครับ แค่นับก็เมื่อยคอ มีคนเดินมาลงชื่อเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่เดินเอาเอกสารที่เซ็นแล้วหลายรายชื่อมาส่ง และก็มีไรเดอร์ทุกยี่ห้อเข้าข้างหน้าที ข้างหลังที ซ้ายที ขวาที 

รายชื่อจากไปรษณีย์ตอนเช้า นับได้ 58xx และรายชื่อที่ออฟฟิศรับ น่าจะเกิน 3xxx เรานับไม่ทันหรอก เพราะเข้ามาเพิ่มทุกนาที และยังมีรายชื่อที่เครือข่ายจุดต่างๆ แจ้งมาทางนั้นบ้าง ทางนี้บ้าง บอกว่ากำลังมาบ้าง บอกว่าส่งไปรษณีย์แล้วบ้าง อุบลกำลังมาโดยเครื่องบิน ปทุมธานีกำลังตั้งจุด อยุธยาจะขับรถมาให้เอง นครสวรรค์มาถึงแล้วเช้านี้ รวมๆ เดาๆ ก็น่าจะแตะครึ่งทาง 25xxx ไปแล้ว เราจะสรุปประกาศคืนนี้แน่ๆ ที่เพจ iLaw

บนเฟซบุ๊กคนแชร์เยอะมาก เยอะกว่าคนแชร์ไอลอว์ช่วงก่อนเลือกตั้งอีก ในทวิตเตอร์คนรีทวิตเยอะมาก และคนช่วยกันทำนั่นนี่เพื่อบอกต่อกันเยอะมาก มีคนมาช่วยกันตั้งจุดทะลุทะลวงมากมาย จนมีโทรศัพท์มาถามว่าจุดต่างๆ อยู่ไหน ผมต้องบอกแล้วว่า ไม่รู้ เพราะไม่รู้ใครช่วยตั้งบ้าง

ถ้าคนที่บอกว่าจะทำ แล้วทำ ถ้าทุกเสียงที่บอกว่า "เดี๋ยวไปๆ" ถ้าคนที่บอกว่า "ส่งแล้วๆ" กำลังเดินทางมา ผมเชื่อว่าเราจะครบ 50,000 รายชื่อบนกระดาษในวันพรุ่งนี้เวลา 20.00 น.

ทุกคน ทุกเสียง ที่มาร่วมทางกันในรอบนี้คงจะรู้อยู่แล้วว่า ต่อให้ครบก็ไม่ใช่ถึงชัยชนะในทันที วันนี้เรากำลังเสนอกันแค่คำถามสำหรับการทำประชามติ ซึ่งจะส่งไปยังโต๊ะครม.ใหม่ และเขาอาจจะไม่เอาของเรา หรืออาจจะไม่ให้ทำประชามติเลยก็เป็นได้ แต่เราร่วมกันลงมือไม่ใช่เพราะทำแล้วก็จะได้รัฐธรรมนูญใหม่เลยภายในเร็ววัน เรากำลังลงมือด้วยกันเพราะเรารู้ว่าเราจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ในสักวันหนึ่ง และนี่เป็นบันไดหนึ่งขั้นที่กำลังเดินไปเพื่อให้ถึงวันนั้น ถ้ามีจังหวะให้ต้องเดินแล้วมันไม่เดินไม่ได้

ทุกคนที่วิ่งตากฝนออกมาหาเราในวันนี้

ทุกคนที่วิ่งหาที่ปริ้นท์เอกสารเอง

ทุกคนที่บากหน้าไปชวนเพื่อนที่ไม่เคยคุยการเมืองมาลงชื่อ

ทุกคนที่ไปยืนหน้ารถไฟฟ้า เรียกคนผ่านทาง

ทุกคนที่เอาหน้าบ้านหน้าร้านตัวเองมาประกาศตัวตั้งจุด

ทุกคนจะจดจำการลงแรงในยกด่วนๆ รอบนี้ร่วมกัน และ

เราจะยืนยันว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ต้องเขียนใหม่ทั้งฉบับ และสสร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง100% ไม่ว่าอะไรจะขัดขวาง ไม่ว่ากกต. จะออกกฎงี่เง่า ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะหน้าเดิม เราก็จะไปให้ถึงวันนั้นให้ได้ และแม้จะต้องลงแรงหนักกว่าวันนี้เราก็ยังพร้อมที่จะทำ

ถ้าเมื่อไรก็ตามที่ต้องการให้ผู้คนช่วยกันลงแรง แล้วคนเป็นหมื่นๆ ลุกขึ้นมาช่วยกันในแบบที่ตัวเองสามารถจะทำได้เช่นนี้ อุปสรรคแบบไหนเราก็จะฝ่าฟันมันไปได้ครับ ท้องฟ้ามันเปลี่ยนสีได้ทุกวัน เปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนกลับไปกลับมา

ขอแจ้งในที่นี้ว่า พรุ่งนี้ค่ำๆ 20.30-21.00 ก็คงจะมีกิจกรรมเฮฮารอรับไรเดอร์จากทั่วประเทศ และลุ้นกันว่าจะถึง 50,000 ในวันพรุ่งนี้ไหม ถ้าถึงก็เฮกันได้พรุ่งนี้เลย ถ้าไม่ถึงก็รอวันเสาร์ว่าจะมีไปรษณีย์มาอีกเท่าไร แต่โต๊ะคงไม่ได้ตั้งเพิ่มแล้ว และถ้าไม่ถึงอีกก็รอไปรษณีย์วันอาทิตย์​ ผมเชื่อว่าจะถึง ถ้าใครอยากจะมาเก็บบรรยากาศตอนลุ้นๆ พรุ่งนี้ค่ำๆ ก็เชิญได้ครับ เรารอต้อนรับการลุ้นด้วยกันได้นะครับ

อาจจะมีปาฏิหารย์ก็ได้ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นชัดขนาดนี้ มันอาจไม่ได้เรียกว่าปาฏิหารย์แล้ว มันคือยุคใหม่ของความตื่นตัวของประชาชน ที่เป็นธรรมชาติอันคาดหมายได้ ซึ่งเราจะอยู่อาศัยด้วยกันในบรรยากาศสังคมแบบนี้ไปอีกยาวๆ"