ไม่พบผลการค้นหา
ศบค.แถลงไร้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม แต่รอยืนยัน 2 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ

วันที่ 22 พ.ค. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศว่า ไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ ทำให้คงมีจำนวนผู้ป่วยสะสม 3,037 ราย ผู้หายป่วยเพิ่มขึ้น 13 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วรวม 2,910 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 71 ราย ขณะที่ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 56 ราย

แต่มีรายงานเบื้องต้นพบผู้ป่วยอาจติดเชื้อจาก State Quarantine ที่อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการอีก 2 ราย ในช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ค.2563) โดยเป็นผู้เดินทางกลับจากอียิปต์และ อินเดีย ถือเป็นรายนำเข้าเชื้อต่างประเทศ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือ วันที่ 8-21 พ.ค. พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 45 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่เป็นคนไทยกลับจากต่างประเทศใน State Quarantine ทั้งหมด 15 ราย ศูนย์กักกัน 5 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้า 11 ราย การค้นหาเชิงรุก และในชุมชน 6 ราย ผู้ป่วยที่ไปอยู่ในที่ชุมชนในวันที่ 21 ก.พ. และที่อื่นๆ ด้วย 5 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น พนักงานขายของ 3 ราย ถือว่ายังมีผู้ติดเชื้อที่เดินไปเดินมาในพื้นที่

ระยะของการระบาดของโควิด-19 จำแนกตามปัจจัยเสี่ยงและวันที่รับรายงานของประเทศไทย โดยหากดูจากการระบาดตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 มี.ค.- 20 พ.ค. พบว่า ช่วงแรกๆ ในต้นเดือน มี.ค. มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มใหญ่มาจากต่างประเทศในวงจำกัด ต่อมาพบผู้ป่วยจำนวนเพิ่มมากจากปัจจัยเสี่ยง คือ สถานบันเทิงและสนามมวย จึงมีการสั่งปิดสถานที่เสี่ยง และกลับมาระบาดซ้ำในวงกว้างและระบาดต่อเนื่องยาวมา

จนถึงช่วงต้นเดือน เม.ย. จนกระทั่งมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้มาตรการเคอร์ฟิว และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง พบผู้ป่วยประปราย และกระทั่งมาเดือนพ.ค.สามารถกดตัวเลขผู้ป่วยให้ลดลงเหลือเพียงหลักหน่วย และบางวันเป็น 0       

สิ่งที่เรียนรู้คือ ระยะเวลาที่สำคัญคือ 2 เดือน หากมีการติดเชื้อในรายที่ 1 แต่ไม่มีการแสดงอาการป่วย และนำเชื้อไปติดในรายที่ 2 และมีการแสดงอาการป่วย จึงต้องย้อนกลับไปหาประวัติเสี่ยงให้ได้ว่ารายที่ 1 เป็นใคร เพราะฉะนั้น 60 วันนี้มีความสำคัญในเชิงวิชาการทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ระบบไทยชนะ ต้องเก็บข้อมูล 60 วัน

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อถึงภาพรวมการใช้ระบบ "ไทยชนะ" ว่า มีผู้ประกอบการลงทะเบียนรวมเป็น 81,149 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 7,470,609 คน การเช็กอิน 14,538,639 ครั้ง เช็กเอาท์ 10,932,694 ครั้ง มีผู้ทำแบบประเมิน 6,368,094 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม อยากให้ช่วยเช็กเอาท์เพิ่มเพราะห่างกันถึง 4 ล้าน ต้องช่วยกันทั้งผู้ประกอบการ ประชาชน อยากให้ร่วมมือกันในเรื่องนี้