ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 8 ธ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีล่าเสือดำ หมายเลขดำ อ .219/2561 ที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ฟ้อง เปรมชัย กรรณสูตร อดีตประธาน กรรมการ บมจ. อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ ยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นที เรียมแสน แม่ครัว ธานี ทุมมาศ พรานป่า เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 พวกจำเลยได้ร่วมกันเข้าไปในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตตะวันตก จ.กาญจนบุรี แล้วร่วมกันฆ่าเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเป็นอาหาร
โดยเมื่อเวลา 10.00 น. โดยศาลฎีกาได้สั่งจำคุก เปรมชัย จำเลยที่ 1 จำนวน 2 ปี 14 เดือน, ยงค์ จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 9 เดือน และ ธานี จำเลยที่ 4 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่
ด้าน ศาลยุติธรรม ชี้แจงว่า กรณีคดีล่าเสือดำของ เปรมชัย ศาลฎีกาได้พิจารณาแล้ว แม้ว่ามีแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 ร่วมกันรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่า แต่ยังคงมีความผิดข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในครอบครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2562
ดังนั้น เปรมชัย จำเลยที่ 1 คงจําคุก 2 ปี 14 เดือน, ยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 17 เดือน และ ธานี จำเลยที่ 4 คงจำคุก 2 ปี 21 เดือน ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่