นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 7) และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไปและข้อปฏิบัติ เพื่อผ่อนคลายและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการประกอบกิจกรรม ด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ระยะที่ 2 โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) คือ ข้อ 3 (1) จ. การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ ซึ่งเมื่อรวมคณะทำงานหน้าฉากและทุกแผนกแล้วต้องมีจำนวนไม่เกินห้าสิบคน และต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วมรายการ โดยข้อกำหนดดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2563 เป็นต้นไปนั้น
นายอิทธิพล กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม กระทรวงวัฒนธรรมจึงจัดการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจมาตรการผ่อนปรนการดำเนินกิจการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์เพิ่มเติม ให้กับผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และโทรทัศน์ อาทิ สมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ผู้สร้าง ผู้กำกับภาพยนตร์ และสื่อโทรทัศน์ กว่า 40 หน่วยงาน เข้าร่วมรับฟัง
โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมชี้แจงให้ความรู้ภาพรวมมาตรการผ่อนปรนการดำเนินกิจการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และมี นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมให้ความรู้เรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้มีการชี้แจงการใช้แอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" เพื่อให้ผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์วีดิทัศน์และโทรทัศน์ สามารถลงทะเบียนได้อย่างถูกต้อง เพื่อจะได้ติดตามและประเมินผลต่อไป
ส่วนข้อห่วงใยที่อยากให้กองถ่ายให้ความสำคัญอีกประการ คือการแยกห้องแต่งตัว แต่งหน้าทำผม ใช้ห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีใช้ช่างแต่งหน้าทำผมในสัดส่วน 1 ต่อผู้รับบริการประมาณ 2-3 ราย หรือไม่มากจนเกินไป และใช้เครื่องสำอางและอุปกรณ์แแยกรายบุคคล มี่สำคัญต้องงดการถ่ายทำฉากที่มีการสัมผัสตัว เช่น ฉากต่อสู้ และฉากกอดจูบเลิฟซีน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการแพร่เชื้อและสามารถใช้มุมกล้องในการถ่ายทำฉากเหล่านี้ได้ และยังคงห้ามกองถ่ายทำจากต่างประเทศ
หลังจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะเร่งจัดทำคู่มือ "การปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับกิจการถ่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์" และจะมอบให้กับผู้ประกอบการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว
และในวันนี้ (18 พ.ค.) กระทรวงวัฒนธรรมยังได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองถ่ายละครโทรทัศน์ ณ ACT Studio ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ณ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติงานตามมาตรการฯ และเน้นย้ำการดำเนินกิจการตามข้อกำหนดและมาตรการอย่างเคร่งครัดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง