ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อกรณีที่เป็นข้อวิพากวิจารณ์ในสังคม กรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงการแสดงคอนเสิร์ต 6 รอบ ที่สิงคโปร์ของ Taylor Swift โดยไม่เปิดการแสดงในประเทศอื่นในอาเซียนนั้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ใกล้ชิด ซึ่งเข้าใจในความเป็นตัวตนของท่านนายกฯ ผมขอยืนยันครับ ว่าท่านนายกฯ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยด้วยความยกย่องชื่นชมสิงคโปร์ การหยิบยื่นข้อเสนอของสิงคโปร์ เป็นแนวทางการทำงานที่กล้าคิดกล้าทำ สามารถทำให้ทีมงานของ Taylor Swift ยอมรับที่จะไปจัดการแสดงที่สิงค์โปร์เพียงประเทศเดียวในภูมิภาค ทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศ ทั้งน้ำเสียงและความหมายที่ท่านนายกพูดถึงเรื่องนี้ ไม่มีจุดไหนเลยครับที่จะสื่อไปในทางที่ตำหนิหรือแสดงความอิจฉาสิงคโปร์
โฆษกรัฐบาลระบุ ระบุอีกว่า ความหมายของท่านนายกฯ มีนัยตรงข้ามครับ ท่านนายกฯ แสดงความหมายเป็นนัยๆว่า ประเทศที่ต้องการโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศ ควรจะต้องดูกลยุทธ์ของสิงค์โปร์เอาไว้เป็นแบบอย่าง
ทั้งนี้ ทางฝ่ายรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ก็ได้ออกมาเฉลยความจริงแล้วว่า มีดีลที่ตกลงกับทีมงานของ Taylor Swift ด้วยข้อเสนอผลตอบแทนและเงื่อนไขตรงตามที่เป็นข่าว สอดคล้องกับคำกล่าวของนายกเศรษฐาว่า ดีลดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ ไม่มีเหตุผลใดที่สิงคโปร์จะต้องรู้สึกละอายว่าไม่น่าทำ ยิ่งไปกว่านั้น สิงคโปร์ยังอธิบายเพิ่มว่า นอกเหนือจากเรื่องเงินแล้ว สิงคโปร์ยังมีความพร้อมด้านอื่นๆเป็นปัจจัยประกอบด้วยที่ทำให้ทางฝ่ายศิลปินหญิงทำความตกลงด้วย
“ผมรู้สึกเสียใจ และขอให้กลุ่มคนที่จ้องจะจับผิดและด้อยค่านายกฯ เศรษฐา โปรดหยุดเถอะครับ ไม่มีเหตผลอะไรที่เราจะมาตามด้อยค่าผู้นำประเทศเช่นนี้ รวมทั้งการกระทำเหล่านี้บางครั้งอาจจะเลยเถิดให้เกิดความหมางใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศโดยไม่จำเป็นได้ เรามาร่วมมือกันทำการเมืองแบบใสสะอาดดีกว่าไหมครับ มาร่วมมือกันก้าวข้ามผ่านความท้าทายในประเทศไปด้วยนะครับ” ชัย กล่าว
ทั้งนี้โฆษกรัฐบาล ได้ติดแฮชแท็ก อาทิ #คนคิดลบมักสร้างแต่ความแตกแยก ,#บ้านเมืองนี้คนเก่งคนดีถูกทำลายไปแล้วเท่าไร ,#แข่งกันทำงานเพื่อประชาชน