ไม่พบผลการค้นหา
'จุรินทร์' เล็งใช้ศึกซักฟอกเป็นเวทีแถลงผลงานตัวเอง เผยรู้นานแล้วว่า 'วีระชัย' จ่อไขก็อก ส.ส. ยันไร้เกาเหลา

วันที่ 16 มิ.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ตนมีรายชื่อเป็นเป้าหมายของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ถือเป็นโอกาสแถลงผลงานในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาด้วย พร้อมตอบทุกคำถามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ แม้ยังไม่ทราบว่าประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายมีอะไรบ้าง แต่ที่สำคัญคือ อยากให้วิปได้จัดเวลาให้รัฐบาลได้มีโอกาสตอบการอภิปรายของฝ่ายค้านในเวลาที่เท่ากัน เพื่อจะได้ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชน

"การอภิปรายของฝ่ายค้านไม่ได้แปลว่าจะถูกต้อง หรือครบถ้วนเสมอไป ทั้งนี้ก็ไม่ได้ไปปรามาสก่อน แต่หมายความว่าอะไรที่สามารถจะทำความเข้าใจได้ ว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรที่เป็นประโยชน์ไปบ้าง ก็จะถือโอกาสในช่วงเวลานั้นชี้แจงด้วย" จุรินทร์ กล่าว

สำหรับกรณีของ วีระชัย วีระเมธีกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่เพิ่งลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวาน (15 มิ.ย.) นั้น จุรินทร์ เผยว่า ได้รู้มาล่วงหน้าแล้ว เนื่องจาก วีระชัย ได้มาชี้แจงไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากประสงค์จะไปดูแลพ่อแม่ และจะไปต่างประเทศด้วย แต่ท่านก็พร้อมจะช่วยพรรคอยู่ข้างหลังต่อไป ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกรณีการตรึงราคาสินค้านั้น ถือเป็นการต่ออายุราคาสินค้าทั่วไป ซึ่งใกล้จะหมดอายุ ก็เป็นภารกิจปกติ ที่คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะต้องดำเนินการต่ออายุ เพราะเป็นการต่ออายุปีต่อปี โดยจะพยายามตรึงราคาไว้ให้ได้นานที่สุดตราบเท่าที่ผู้ประกอบการยังพออยู่ได้ ไม่ขาดทุน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาซ้ำซ้อน นอกจากราคาสินค้าแล้ว จะกลายเป็นปัญหาสินค้าขาดตลาด

จุรินทร์ ย้ำว่า ความสมดุลเป็นเรื่องยาก และเป็นประเด็นที่กระทรวงพาณิชย์ต้องดูด้วยความระมัดระวัง จึงเป็นที่มาที่ตนมอบนโยบาย วิน-วินโมเดล คือให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และเป็นภาระของแต่ละฝ่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นเรื่องที่แม้ทุกฝ่ายจะไม่ได้ทั้งหมดก็ไม่ได้เสียทั้งหมด

สำหรับน้ำมันปาล์มได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นไปแล้วโดยมีตัวแทนจาก เกษตรกร โรงสกัด โรงกลั่นน้ำมันขวดบริโภค ตัวแทนผู้ส่งออก และตัวแทนส่วนราชการ ซึ่งทั้ง 5 ฝ่าย จะมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามกำกับดูแลว่า ควรจะกำหนดสต๊อกน้ำมันปาล์มสำหรับการบริโภคไว้จำนวนเท่าใด เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ 

ขณะนี้มีสินค้ามารายการขอขึ้นราคามา เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการ ทางกระทรวงพาณิชย์จะต้องไปดูในรายละเอียด ไม่ใช่ว่ายื่นมาก็อนุญาตปรับเลย ต้องดูลึกลงไปในแต่ละประเภทสินค้าว่า ต้นทุนเพิ่มขึ้นในปริมาณเท่าใด และถ้าจะต้องขึ้นราคาควรจะเป็นอย่างไรซึ่งมอบเป็นนโยบายไปแล้ว แต่ในภาพรวมส่วนใหญ่ก็พยายามตรึงราคาไว้ต่อเนื่องหลายเดือน

เมื่อถามถึงการตรวจสอบราคาสินค้าตามพื้นที่ หรือร้านโชห่วย จุรินทร์ ระบุว่า คงไม่พูดถึงโชห่วย เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นจำเลย แต่ทางพาณิชย์จังหวัด และคณะทำงานผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะเป็นผู้ติดตามราคาของสินค้าบริการอยู่แล้ว หากประชาชนพบว่า มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือค้าเอากำไรเกินควร ก็สามารถแจ้งมาได้ที่ 1569

สำหรับกรณีราคาขายปลีกของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จุรินทร์ ระบุว่า ตนได้ตอบไปแล้ว ว่ามีการขอปรับราคาหลายครั้ง ซึ่งยังไม่ได้อนุญาต และพยายามตรึงให้นานที่สุด ขณะที่ผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือดี จึงต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการไว้ด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ว่าราคาของซอสและผงชูรสจะปรับสูงขึ้นในเดือนหน้า จุรินทร์ กล่าวทันทีว่า ตนขอไม่ตอบเรื่องอนาคต เมื่อมีการขอปรับขึ้นราคาจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในรายละเอียดอยู่แล้ว ว่าควรปรับขึ้นหรือไม่อย่างไร เหมาะสมหรือไม่