'อิเกีย' บริษัทเฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดนประกาศปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนเฟอร์เจอร์ในเมืองเดนวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุน ก่อนจะย้ายการผลิตไปยังยุโรปในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

ในแถลงการณ์ของอิเกียระบุว่า อิเกียได้พยายามปรับปรุงเพื่อรักษามาตรการแข่งขันของโรงงานแห่งนี้ แต่ด้วยปัจจัยด้านต้นทุน ทำให้อิเกียไม่สามารถทำการผลิตสินค้าในเมืองเดนวิลล์ได้อีกต่อไป

โรงงานผลิตสินค้าอิเกียในเมืองเดนวิลล์เริ่มผลิตสินค้าในปี 2008 และมีพนักงานประมาณ 300 คน โรงงานดังกล่าวผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งรวมทั้งชั้นวางของและที่เก็บของที่ทำจากไม้เพื่อขายในอิเกียทั่วสหรัฐฯและแคนาดา

'ทิม เคน' วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตจากรัฐเวอร์จิเนีย เคยกล่าวผ่านทวีตเตอร์เมือ่ปี 2018 ว่า โรงงานในเมืองเดนวิลล์นั้นต่างกังวลถึงผลกระทบจากกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะการนำเข้าวัตถุดิบการผลิตจากจีน

อย่างไรก็ตาม ทางอิเกียได้ออกมาประกาศว่าการปิดโรงงานในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายกำแพงภาษีของรัฐบาล

CBS รายงานว่า การประกาศปิดโรงงานของอิเกียนั้นมาจากการผลักดันนโยบายการผลิตในสหรัฐฯ ของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งรวมไปถึงมาตรการการกระตุ้นการผลิต 'Made in America' นอกจากนี้งานวิจัยของ A.T. Kearney บริษํทที่ปรึกษาด้านการตลาดระบุว่า ภาคการผลิตในสหรัฐฯ นั้นยังคงเติบโตช้ากว่าประเทศต่างๆ ในเอเชีย และนโยบายกำแพงภาษีของรัฐบาลทรัมป์นั้นเป็นนโยบายที่ย้อนกลับมาทำร้ายเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง

ปัจจุบันอิเกียมีโรงงานผลิตสินค้าทั่วโลกอยู่ใน 9 ประเทศ และมีพนักงานในส่วนโรงงานประมาณ 20,000 คน ทั้งนี้อิเกียยังมีแผนปรับลดพนักงานทั่วโลกอีก 7,500 คน หรือประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานอิเก���ยทั่วโลกภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม อิเกียยังมีแผนปรับกลยุทธ์ทางการตลาดโดยจะเปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่มในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกเพิ่มอีก 30 แห่ง ซึ่งทางอิเกียคาดว่าจะสร้างงานได้อีกถึง 11,500 ตำแหน่งทั่วโลก

ที่มา CNN