วันที่ 2 ต.ค. ที่พรรคก้าวไกล พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลมีความตั้งใจจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ด้วยแนวทาง Policy watch คือจับตานโยบายและการทำงานของรัฐบาล และนำมาวิเคราะห์ ส่วนที่เห็นว่าตอบโจทย์ก็พร้อมสนับสนุน หรือหากมีจุดใดที่ขาดก็จะได้ทำข้อเสนอแนะให้รัฐบาล หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติการ
เช่นการแถลงของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เมื่อช่วงเช้า ถึงข้อเสนอแนะของนโยบายกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็ถือเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมของแนวทาง Policy Watch โดยต่อไปพรรคก้าวไกลจะมีการแถลงอย่างต่อเนื่อง ในประเด็นต่างๆ หรือเมื่อมีสถานการณ์ที่เป็นประเด็นสำคัญหรือเกี่ยวข้องกับนโยบาย ในตลอด 4 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยังมีแนวทางเพิ่มบทบาทของ สส. โดยแบ่งออกการขับเคลื่อน 15 ประเด็น เพื่อให้มีความครอบคลุมกับปัญหาของประชาชน ประกอบด้วย
1) พัฒนาเศรษฐกิจ
2) เกษตร-ประมง
3) ที่ดิน
4) แรงงาน-สวัสดิการ
5) ท่องเที่ยว
6) เศรษฐกิจสร้างสรรค์
7) พัฒนาการเมือง
8) ความหลากหลาย
9) ทหาร-ตำรวจ
10) กระจายอำนาจ-ราชการ
11) สาธารณสุข
12) การศึกษา
13) คมนาคม
14) สาธารณูปโภค
15) สิ่งแวดล้อม
พริษฐ์ ระบุว่า เหตุที่ไม่ได้แบ่งตามกระทรวง เพราะเข้าใจดีว่าหลายวาระต้องอาศัยการขับเคลื่อนโดยหลายระทรวงร่วมกัน พร้อมปฏิเสธใช้คำว่าเป็นคณะรัฐมนตรีเงา (ครม.เงา) เพราะฝ่ายค้านจะไม่ได้เป็นแค่เงาไปไล่บี้ติดตามรัฐบาล แต่เราเป็นเสมือนกับแสงด้วย เพื่อนำทางและชี้ให้เห็นประเด็นที่รัฐบาลอาจจะยังไม่ได้ขยับ ฝ่ายการเชิงรุกอย่างก้าวไกลพยายามจะนำหน้าทุกปัญหา เชิญชวนให้รัฐบาลขยับในประเด็นต่างๆ
พริษฐ์ มองว่า แม้รัฐบาลอาจไม่ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะ ก็ไม่คิดว่าเสียของ เพราะถึงแม้เราไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ปัญหาของประชาชนเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ ยังยินดีที่จะยื่นข้อเสนอแนะทั้งหมดที่มีเพื่อเชิญชวนและโน้มน้าวรัฐบาลให้ติดตาม ท้ายที่สุดแล้ว หากเผยแพร่ข้อเสนอทั้งหมดแล้วรัฐบาลนำไปพิจารณา ผลประโยชน์จะตกไปสู่ประชาชน
นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังทำงานควบคู่ไปกับกลไกสภา โดยพรรคก้าวไกลได้ยื่น 27 ร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศเข้าสู่สภาแล้ว บางส่วนยังอยู่ระหว่างช่วงรับฟังความเห็น และหลายร่างที่ไม่ใช่กฎหมายการเงิน สามารถพิจารณาในวาระ 1 ได้ทันที เช่น สุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม ขณะที่บางกฎหมายซึ่งถูกตีความว่าเป็นกฎหมายการเงิน ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นอนุมัติ เช่น พ.ร.บ.ราชการทหาร ที่มีเนื้อหายกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร และกฎหมายกระจายอำนาจ
พริษฐ์ ยังกล่าวถึงกลไกของกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ทั้งในคณะที่พรรคก้าวไกลได้เป็นหรือไม่เป็นประธานกรรมาธิการฯ ก็ตาม จะพยายามทำงานเชิงรุกมากขึ้น เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ จะไม่ใช่แค่ตรวจสอบปลายเหตุว่างบประมาณมีความผิดปกติหรือทุจริตหรือไม่ แต่มุ่งจะสร้างความโปร่งใสตั้งแต่ต้นน้ำ คือที่มาของงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการคัดเลือก โดยเปิดให้ สส.ที่มีความประสงค์สมัครเข้ามา พร้อมกับการนำเสนอแผนงานและวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนกรรมาธิการฯ โดยคาดว่าได้ข้อสรุปในการประชุม สส. พรรคก้าวไกล วันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.)