ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' คาดมีแนวโน้มยุบสภาก่อนอยู่ครบเทอม ได้เลือกตั้งช่วงต้นเดือน พ.ค. เผยท่าทีภูมิใจไทย ศึกอภิปราย ม.152 ถ้าไม่มีใครมากระทบเล่นเกมการเมืองก็ไม่มีปัญหา ลั่นเราไม่ใช่หมู

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงผลโพลทางการเมือง ซึ่งพรรค ภท.ถูกจับตา ว่า ที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าผลโพลเป็นอย่างไร เพราะมัวแต่เดินทางหาเสียง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพร้อมซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ก็เดินสายหาเสียง ส่วนการเปิดตัวผู้สมัครและทีมงานก็จะเปิดเรื่อยๆตราบใดที่ยังสามารถสมัครสมาชิกได้และไม่ขัดต่อระเบียบข้อบังคับของการเลือกตั้ง ซึ่งยังมีเวลาอยู่และนายกฯ ก็ยังไม่ได้ยุบสภา เพียงแต่เราก็คาดการณ์ไว้ว่าการเลือกตั้งจะอยู่ในช่วงต้นเดือน พ.ค. เพราะฉะนั้นถ้ายุบสภาก็ยังมีเวลา 30 วันในการสมัครเป็นสมาชิก และ ส.ส.ของพรรค แต่ถ้ามายุสภาก็มีเวลา 90 วัน แต่ถึงอย่างไรแนวโน้มก็คาดว่าน่าจะยุบสภา

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีหลายคนเรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภา เนื่องจากมองว่าทำงานไม่ได้แล้วนั้น อนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ถ้ามันไม่เล่นเกมการเมืองก็ทำงานได้ ส่วนใหญ่ก็มาประชุมกันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าจะแสดงตนหรือไม่แสดงตน แต่เรื่องตรงนี้พรรคภูมิใจไทยรู้ซึ้งดีว่าเวลากฎหมายกัญชาจะเข้าสภา ก็ไม่ค่อยแสดงตนกัน พรรคภูมิใจไทย ก็คงจะต้องมีท่าทีอะไรบ้างเหมือนกันนะครับ

เมื่อถามย้ำว่า ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยจะมีผลต่อการอภิปรายหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ก็ต้องถามบรรดา ส.ส.ของพรรคภูมิใจด้วย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เพราะว่าพวกเขาเสนอเข้ามาอย่างเช่นกฎหมายกัญชา ส.ส.พรรคภูมิใจไทยตั้งใจทำขึ้นมา และก็ผ่านวาระแรกในชั้น กมธ.แล้ว แต่พอจะถึงเวลานำเข้าสู่วาระ 2 วาระ 3 มันก็มีเกมการเมืองเกิดขึ้น ฉะนั้นเราก็ต้องดูว่า "เราก็ไม่ใช่หมูอะเนอะ" แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมั่นใจว่า ท่าทีของเราประชาชนจะต้องไม่ได้รับความเดือดร้อน

เมื่อถามว่า ถ้าสภาล่มในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน ระบุว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ถ้าจะถามว่าทำอย่างนั้นเพื่อหนีการรับฟังอภิปราย มันไม่มีประโยชน์แต่กลับจะยิ่งหนักเข้าไปอีก พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่เจตนารมย์ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเราพร้อมที่จะรับฟังความเห็นจากเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้าน เพราะยิ่งไกลก็จะยิ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยในการชี้แจงข้อเท็จจริง และข้อกล่าวหาต่างๆ เพื่อหักล้างไป ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการลงคะแนนอะไร ไม่เหมือนการอภิปรายที่มีการลงคะแนนตอนนั้นเราก็ต้องไปลุ้นว่าสมาชิกจะมีการเล่นเกมอะไรกันอีกหรือเปล่า ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับเรื่องเชื่อหรือไม่เชื่อ แถวนี้มองว่าการอธิบายตามมาตรา 152 เจตนารมย์คือการให้คำแนะนำ ซึ่งพวกตนก็เห็นว่าอะไรที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านอภิปรายในสภา มาตรา 152 ก็ถือว่าเป็นคำแนะนำไม่ว่าจะว่ากล่าวตักเตือนหรือตำหนิก็ได้หมด ซึ่งเราก็จะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจง เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าการทำงาน 4 ปีที่ผ่านมารัฐมนตรีในสังกัดภูมิใจไทยได้ทำอะไรบ้างให้กับประชาชน

เมื่อถามว่า พูดอย่างนี้แสดงว่าพรรคภูมิใจไทย จะเข้าเป็นองค์ประชุมให้สภาครบในการอภิปราย ม.152 ใช่หรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ในเบื้องต้นถ้าไม่มีใครมาทำอะไรที่เป็นการกระทบต่อการจากไปของพรรคภูมิใจไทย เราก็คงเป็นมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเกิดมีใครมากระทบหรือมาทำอะไรที่ทำให้ความก้าวหน้ากฎหมายของภูมิใจไทย ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ด้วยกลเกมทางการเมือง เท่าที่ฟัง ส.สของพรรคมาก็จะมีท่าทีของตนเอง พร้อมยืนยันว่า ในบางอย่างเราใช้มติพรรค และให้เอกสิทธิ์ส.ส.ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ส่วนจะรอดูการประชุมสภา​ผู้แทน​ราษฎร​ในวันที่ 8-9 ก.พ นี้ ใช่หรือไม่ อนุทิน ระบุว่า 

"รอดูทุกวันอยู่แล้วแหล่ะครับ ก็เล่นเกมกันมาเป็นเดือนแล้วประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่โชคดีในตัวของผมเองในเรื่องกัญชาที่ได้เตรียมในเรื่องกฎกระทรวงสาธารณสุขที่ได้เปิดช่องให้ผู้ประกอบการทั้งหลายและให้ประชาชนทั้งหลายได้ทำธุรกรรม ธุรกิจกัญชา ได้อย่างปกติ มันจึงไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งถ้าใช้อย่างถูกวิธีก็เสริมในเรื่องเศรษฐกิจและเป็นการเสริมช่องทางการรักษาทางการแพทย์ในเบื้องต้น ซึ่งก็ถือว่าคนไม่นำไปใช้ผิดประเภท"

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์​โอชา นายก​รัฐมนตรี จะขอความร่วมมือพรรคร่วมเพื่อให้เกียรติสภาในการเข้าร่วมประชุม 3 ครั้งที่เหลือ ให้ครบองค์ประชุมหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า นายกรัฐมนตรี​ ก็จำเป็นต้องกล่าวเช่นนั้น ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล