นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเร่งรัดมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง มอบกรมการขนส่งทางบกนำบทเรียนจากอุบัติเหตุที่ผ่านมากำหนดมาตรการและออกประกาศบังคับใช้โดยด่วน พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยงานต้องร่วมกันปฏิรูปและพัฒนาความปลอดภัยไปด้วยกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะให้กับประชาชน
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเร่งรัดมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง กรณีรถโดยสารไม่ประจำทางประสบอุบัติเหตุบน ทล.304 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 โดยมี นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนกรมทางหลวง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวว่า จากกรณีรถโดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ บรรทุกเจ้าหน้าที่คณะดูงานเทศบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 49 ราย (รวมคนขับรถ) ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทางบน ทล.304 บริเวณตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รายงานว่าจากการตรวจสอบพบสาเหตุหลักเกิดจากพนักงานขับรถใช้ความเร็วไม่เหมาะสมกับเส้นทางลงเขาที่เป็นทางโค้งต่อเนื่อง ส่งผลให้รถเสียหลักเฉี่ยวชนกับแผงกั้นแบ่งช่องทางจราจรด้านซ้าย (แบริเออร์) และพลิกตะแคง โดยไม่พบร่องรอยการเบรก ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ขบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือวิเคราะห์อุบัติเหตุและกำหนดมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะร่วมกัน โดยที่ประชุมได้วางแนวทางและกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง และจุดเสี่ยงบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนี้
1. มิติด้านยานพาหนะ กำหนดเขตพื้นที่ (Zoning) รถโดยสาร 2 ชั้นไม่ประจำทาง ที่วิ่งในเส้นทางที่มีความเสี่ยงและมีข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมทั้งศึกษายกระดับ GPS ใช้งานในเชิงป้องกันสื่อสาร 2 ทาง โดยสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในจุดที่มีความเสี่ยงและเกิดอุบัติเหตุ การจัดทำ Safety Ratings รถโดยสารสาธารณะ และการเร่งรัดแผน/มาตรการด้านความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะให้มีความปลอดภัยทุกมิติ
2. มิติด้านผู้ขับขี่ เพิ่มความเข้มข้นหลักสูตรสำหรับผู้ขับรถบริเวณที่มีทางลาดชัน เช่น การใช้เกียร์ การตรวจสอบมาตรวัดแรงดันลม เป็นต้น
3. มิติด้านถนนและสิ่งแวดล้อม ให้ติดตั้งป้ายเตือนจุดเสี่ยง (Black Spot) ป้ายแนะนำการขับรถลงเขาให้ใช้เกียร์ 2 เท่านั้น ป้ายเตือนรถโดยสารให้เข้าจุดลงเวลารถโดยสาร และป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงช่องหยุดรถฉุกเฉิน นอกจากนี้ ให้ซ่อมแซมแบริเออร์ และเสาไฟส่องสว่างที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้
4. มิติด้านการบังคับใช้กฎหมาย ย้ายจุด Check Point รถโดยสารสาธารณะบน ทล.304 ไปอยู่ อีกฝั่ง เนื่องจากปัจจุบันจุดดังกล่าวเส้นทางขาขึ้น - ขาล่องอยู่ฝั่งเดียวกัน
5. มิติด้านการประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการขนส่งเข้าจุดพักรถโดยสารตามข้อบังคับพนักงานจราจรจังหวัดปราจีนบุรี
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการให้นำเคสอุบัติเหตุดังกล่าวมาเป็นกรณีนำร่องในการแก้ไขปัญหาสำหรับการกำหนด Zoning โดยออกเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานเพื่อบังคับใช้กับรถโดยสารไม่ประจำทางก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ รวมถึงการออกประกาศปรับปรุงระเบียบมาตรฐานรถโดยสารไม่ประจำทางให้เป็นมาตรฐานเดียวกับรถโดยสารประจำทาง เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน นอกจากนี้ ให้กรมทางหลวงร่วมกับ ขบ. สำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างจุดพักรถเพิ่มเติม โดยจัดทำเป็นแผนดำเนินงาน (Timeline) เสนอมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและเป็นรูปธรรมต่อไป
“ขอเน้นย้ำให้ ขบ. ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยบูรณาการ่วมกับกรมทางหลวง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทำแผนดำเนินงานและเร่งออกประกาศบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้ซ้ำอีก เพื่อยกระดับความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทางอย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าว