ไม่พบผลการค้นหา
รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ผ่านมา 15 ปี ด้วยน้ำมือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ขณะนั้นถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ควบคุมการบริหารประเทศ

แต่ผ่านมา 15 ปี ทุกฝ่ายได้ “บทสรุป” เส้นทางการเมืองของ “พล.อ.สนธิ” แล้วว่า ไปไม่ถึงฝั่ง ทั้งอยู่เบื้องหน้า – เบื้องหลังการตั้งพรรคการเมือง เช่น พรรคมาตุภูมิ พา ส.ส.เข้าในสภาผู้แทนราษฎรได้ 1 เก้าอี้ แต่ก็ไม่มีตัวตนในสภา 

ก่อนการเลือกตั้ง 2562 “พล.อ.สนธิ” ผลักตัวเองเข้าไปสู่การสนามเลือกตั้งในนามพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ก็ไม่อาจกลับเข้าสู่วงการเมืองได้

เรื่องนี้สวนทางกับกลุ่ม 3 ป. แห่งบูรพาพยัคฆ์ อันมีชื่อแกนนำคือ“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” 

ปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้มากบารมีแห่งอาณาจักรการเมืองในยุคนี้ก็คงไม่ผิดนัก

เขาเป็น “พี่ใหญ่” แห่งดุลอำนาจ 3 ป. คือ ป.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ ป.ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 

อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้ว่า หากไม่มี “พล.อ.ประวิตร” ก็อาจไม่มี “พล.อ.สนธิ” อาจไม่มี 19 ก.ย. 2549 เลยก็ได้ หรือแม้มีการปฏิวัติยึดอำนาจ หากไม่ใช่ “พล.อ.ประวิตร” เป็นแกนหลัก กลุ่มอำนาจ 3 ป.อาจไม่ใหญ่ค้ำฟ้าเหมือนทุกวันนี้ 

หากเรียงไทม์ไลน์อำนาจ พล.อ.ประวิตร และ 3 ป. กับไทม์ไลน์ก่อน - หลัง การยึดอำนาจของ พล.อ.สนธิ พบเรื่องราวที่น่าสนใจของกลุ่ม 3 ป. ที่สัมพันธ์กับการยึดอำนาจ ทั้งปี 2549 และ ปี 2557 

ประยุทธ์ ประวิตร สภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ 33C-1D6E6B617870.jpeg

เส้นทางทหารอาชีพของ “พล.อ.ประวิตร” ในฐานะประธานรุ่น จปร.17 นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 เป็น ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนที่ 34 เติบโตจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ที่รู้จักกันว่า “บูรพาพยัคฆ์” ในฐานะหน่วยรบแห่งภาคตะวันออก 

พล.อ.ประวิตร รับไม้ ผบ.ทบ.ต่อจาก “พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร” ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ขยับไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) 

“เขากองเชียร์เยอะมาก มี วัฒนา เมืองสุข ซึ่งเป็นส.ส.ปราจีนบุรี ในขณะนั้น ก็มาเชียร์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มาเชียร์ ผมไม่ค่อยรู้จักเขา ก็รู้ว่าเป็นพี่ชายของรุ่นพี่ผม คือ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รู้จักกันดี ก็เลยตั้ง” ทักษิณ กล่าว

ที่สุด พล.อ.สนธิ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 6 จากหน่วยรบพิเศษ (หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ) นอกสายบูรพาพยัคฆ์ พลิกโผได้รับเลือกให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. โดย 'ทักษิณ' ต้องการให้ ผบ.ทบ.มุสลิมคนแรกเข้ามาคลี่คลายปัญหาไฟใต้ และยังเป็นการเปิดตำนาน “ลับ ลวง พราง” 

สนธิ เรืองโรจน์ รัฐประหาร 19 กันยายน ทักษิณ g107836.jpg

แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะหลบฉากอำนาจ ภายหลังเกษียณอายุราชการ แต่ทว่าเขายังทิ้งทวน ดึงทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จากตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) มาเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.ร.1 รอ.) ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ ได้ขยับขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 อยู่ในไลน์แคนดิเดต ผบ.ทบ.ภายหลังการรัฐประหาร

และดึง พล.อ.ประยุทธ์ น้องรักอีกรายจาก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล. ร 2 รอ.) เข้าศูนย์กลางอำนาจ ในฐานะรองแม่ทัพภาค 1 

ฉากรัฐประหารในค่ำคืน 19 ก.ย. 2549 มีหน่วยรบภาคตะวันออกเป็นกำลังหลัก พล.อ.อนุพงษ์ - พล.อ.ประยุทธ์ คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้การยึดอำนาจสำเร็จ 

AFP รัฐประหาร 19 กันยายน 49 ทักษิณ สนธิ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คปค ปฏิวัติ สถาบันพระมหากษัตริย์ ในหลวง 2559.jpgประยุทธ์ อนุพงษ์ ทหาร กองทัพบก kg4085034.jpg

ในยุค “บิ๊กบัง” เป็นผู้นำรัฐประหาร ควบตำแหน่ง ผบ.ทบ. ต้องหา “ตัวตาย – ตัวแทน” มาค้ำบัลลังก์อำนาจ เขาจึงเลือก พล.อ.อนุพงษ์ มารับภารกิจ ผบ.ทบ.คนที่ 36 

แทนตัวเต็งสำคัญคือ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เตรียมทหารรุ่น 7 ท่ามกลางการจับตามองของหลายฝ่ายว่า พล.อ.สนธิจะเลือกใคร ถึงขั้นมีการอินไซด์วงในว่า ระหว่าง “พล.อ.สพรั่ง” กับ “พล.อ.อนุพงษ์” ก็ไม่ลงรอยเรื่องการเป็นแคนดิเดต ชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. 

ที่สุดแล้ว พล.อ.สพรั่งถูกขยับไปเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่มีกำลังทหารในมือ 

ผลจากการเลือกให้ “พล.อ.อนุพงษ์” นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ที่เกษียณอายุในปี 2553 มีเวลาอยู่ในตำแหน่งอีก 3 ปี สามารถวางขุมกำลังบูรพาพยัคฆ์ผงาดได้ทั้งแผง

อีกทั้งหลังการรัฐประหารมีการจัดระเบียบ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 ที่มี “บอร์ด” ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับสูง ประกอบด้วย รมว.กลาโหม และ รมช.กลาโหม ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งฝ่ายการเมืองมีแค่ 2 เสียง ทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายระดับสูงในกองทัพอยู่ในมือของทหารเป็นผู้กำหนด มิใช่ของนักการเมือง

อนุพงษ์ กองทัพ ผู้นำเหล่าทัพ สมชาย รัฐประหาร ปี 2551 280901.jpeg

ระหว่างที่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. เป็นยุคที่เปลี่ยนผ่านระหว่างรัฐบาล คมช.มาสู่รัฐบาลหลังเลือกตั้ง คือ รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ซึ่ง “บิ๊กป็อก” เป็นแกนนำสำคัญในการให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นั่งเรียงหน้ายกแผง กลางรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 กดดันนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “รัฐประหารเงียบ”  

และเมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรค เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2551 มีข่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ –พล.อ.ประวิตร 2 ป. ใช้ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน.1 รอ.) บีบให้พรรคการเมือง “พลิกขั้ว” มาหนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จนถูกขนานนามว่า “ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร” และเงื่อนไขสำคัญคือ “พล.อ.ประวิตร” เป็น รมว.กลาโหม 

การเป็นไม้ค้ำยันรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. และมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) และรองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) อยู่เบื้องหลังความแข็งแกร่งของกองทัพ 

ประยุทธ์ ประวิตร อนุพงษ์ บูรพาพยัคฆ์ 000000.jpg

แม้รัฐบาลอภิสิทธิ์ จะถูกชุมนุมประท้วงโดยกลุ่ม นปช.ถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ทหารก็ขนกำลังออกมาปกป้องรัฐบาล จนอยู่รอดปลอดภัยถึงการเลือกตั้งปี 3 กรกฎาคม 2554 โดยเป็นที่รู้กันเนิ่นนานว่า ผบ.ทบ.คนถัดจาก พล.อ.อนุพงษ์ หนีไม่พ้น พล.อ.ประยุทธ์ 

และ พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. มีเวลาคุมกองทัพ จากปี 2553 ถึงปี 2557 รวม 4 ปี คุมอำนาจอย่างแข็งแกร่ง และเบ็ดเสร็จ 

แม้เปลี่ยนรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีความพยายามจะแก้ไข พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 แต่ก็ถูกสกัดเอาไว้ 

คสช.

และแล้ว กลุ่ม 3 ป. ก็เข้ายึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยกลุ่ม 3 ป.ที่อยู่อย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนมาถึงปัจจุบัน

โดยมี พี่ใหญ่ “ประวิตร” เป็นแกนหลักเขียนตำนาน 3 ป.

ขณะที่ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ เป็น ผบ.ทบ. เข็นน้องรัก ป.ประยุทธ์ ป.ป็อกเข้าไลน์ศูนย์กลางอำนาจ เป็นคนคุมกำลังปฏิวัติ 19 กันยายน 2549

พล.อ.สนธิ ไม่กล้าหักหาญน้ำใจ พี่ใหญ่ป้อม ประธานรุ่นเตรียมทหาร 6 จึงตั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ.ทั้งที่อาวุโสน้อยกว่า พล.อ.สพรั่ง คู่แข่งอีกคน พร้อมกับการเติบโตในอำนาจ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ปัจจุบันคือ นายกฯ คนที่ 29 

หากไม่มี “ประวิตร”เป็นจ่าฝูง ผบ.ทบ.ก่อนหน้าเพื่อนร่วมรุ่น ประวัติศาสตร์กองทัพบกไทยก็อาจไม่มีผู้นำรัฐประหารที่ชื่อ พล.อ.สนธิ  19 ก.ย. 2549 และ 3 ป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง