ไม่พบผลการค้นหา
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดใจทั้งน้ำตาผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู แจงไม่คิดตบเด็กชู 3 นิ้วที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ขอสู้กับคนจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ประกาศลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ทั้งน้ำตาผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมชี้แจงประเด็นข่าวที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อหนึ่งถึงการจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งต่อมาได้มีการบิดเบือนว่าตนต้องการจะใช้ความรุนแรงโดยการตบเด็กที่ชูสามนิ้วทางด้านการเมือง ยืนยันชัด ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเด็กๆ เลย พร้อมสนับสนุนกับการชุมนุมเต็มที่หากเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและอนาคตของชาติ แต่ที่ทำให้ตนไม่ทนนั้นคงเพราะมีคนที่มาจาบจ้วงสถาบันด้วยถ้อยคำและพฤติกรรมหยาบคายต่างๆ

“อยากจะมาคุยเรื่องของประเด็นที่หาว่าคนอย่างผมจะไปตบเด็กที่ชูสามนิ้ว ผมไม่มีความคิดอุบาทว์ชาติชั่วแบบนั้นหรอกครับ ที่ผมบอกว่าถ้าผมเจอต่อหน้าใครที่ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จนั้นน่ะผมจะตบจริงๆ ถ้าเป็นรถพ่อคุณ แม่คุณขับมา แล้วมีคนยกนิ้วกลางให้คุณจะทำยังไง ผมเห็นภาพแล้วมันโมโห เพราะเด็กไม่เกี่ยวกับผม เขาจะชูสามนิ้วหรือกี่นิ้วก็เรื่องของเขา เขามาเรียกร้องประชาธิปไตย มาเรียกร้องอนาคตของเขา นั่นมันเรื่องของเขา

ผมไม่เคยไปชุมนุมกับม็อบตั้งแต่เสื้อเหลือง เสื้อแดง มาสมัยไหนผมก็ไม่เคยไปยุ่ง ไม่เคยขึ้นเวที ผมมีเวทีเดียวคือเวทีพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับผม และคนที่ยุยงว่าผมจะตบเด็กมาโยงเกี่ยวกับเรื่องชูสามนิ้วอย่าหน้าตัวเมียครับ อย่าหน้าตัวเมีย เอาความจริงที่ข่าวเขาเขียนกัน ผมบอกแล้วว่าถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นแล้วใครชูนิ้วเดียวในขบวนเสด็จ ผมจะตบ ผมยอมติดคุกจริงๆ นี่คือความจริงของผม คนที่ฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ คนที่เอารูปในหลวงไปแปะแล้วเขียนคำหยาบคาย พูดจาดูถูกดูหมิ่น นั่นแหละที่ผมจะทำ ไม่เกี่ยวกับเด็กชูสามนิ้ว อันนั้นผมสนับสนุนเลยครับถ้าทำแล้วมันเกิดอนาคตที่ดีกับประเทศชาติและเพื่อส่วนรวม ผมยินดี”

“ทุกวันนี้เราต้องรับรู้สิครับว่าสิ่งหนึ่งที่คนไทยมารวมกันอยู่ได้เป็นปึกเป็นแผ่น สามัคคีกัน ไม่ใช่เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เหรอครับ คุณมีชาติ คุณมีศาสนา คุณต้องมีพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่จะเอาพระมหากษัตริย์ออกแล้วจะเป็นประธานาธิบดีอะไรของคุณ นั่นเพ้อเจ้อครับ”

ทั้งนี้ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังขอแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบัน และประกาศลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เนื่องจากไม่อยากให้ใครไปต่อว่ามูลนิธิ ส่วนเรื่องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ยังขอทำหน้าที่ต่อในนามของตนเองโดยไม่มีส่วนเกี่ยวกับมูลนิธิอีกต่อไป

"ผมต้องขอโทษทางมูลนิธิ วันนี้เพื่อความสบายใจ ผมขอลาออก (น้ำตาคลอ) จากมูลนิธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะได้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องผมว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน และทำให้คนมาต่อว่ามูลนิธิอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เป็นไรครับ ผมจะใช้ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งไม่มีมูลนิธิร่วมกตัญญูนะครับ (ถอดชุดมูลนิธิออก) ผมต้องขอโทษ เพราะผมต้องทำ มันมาถึงที่สุดแล้ว มันหนักกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาเกี่ยวกับสถาบัน”

“เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกเลยว่า โอเคต่อไปนี้ผมขอลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ผมจะขอสู้ด้วยตัวของผมเอง และเคสทุกเคสที่รอช่วยจากผมอยู่ ผมก็ยังจะช่วย แต่เป็นในนามของ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผมรู้สึกว่าเวลาที่ผมคุยทำไมต้องมาโถมใส่ผม เรื่องนี้ผมทำผิดอะไร ผมออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมทำมาตั้งแต่กี่ปีแล้ว (เสียงสั่น) ตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ ผมก็ออกมาต่อต้าน และวันนี้ผมขอพูดเลยนะ ใครที่มาด่าพ่อแม่คุณ คุณยอมเหรอ คุณจะปล่อยให้มันทำแบบนี้ไปเหรอ และวันนี้พวกคุณจะไปสถานทูตเยอรมันเพื่ออะไรผมถามหน่อย ตอนนี้ผมไม่ใช่มูลนิธิร่วมกตัญญูแล้วนะครับ ผมเป็นคนธรรมดา เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปว่าอะไรมูลนิธิทั้งนั้น ผม นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผมยอมที่จะต่อสู้เพื่อสถาบัน เพื่อคนไทยที่รักพระมหากษัตริย์”

จากไลฟ์เฟซบุ๊กดังกล่าวมีผู้แชร์คลิปไปกว่า 1 หมื่นครั้ง พร้อมเข้าไปแสดงความคิดเห็นกว่า 3 หมื่นข้อความ โดยเป็นข้อความส่งกำลังใจ