ไม่พบผลการค้นหา
'เสรีพิศุทธิ์' เชื่อค้นบ้าน 'สุรเชษฐ์' เอี่ยวชิงเก้าอี้ ‘ผบ.ตร.’ ระบุเป็นวิธีสกปรก ไม่เคยเห็นมาก่อน แนะ 'เศรษฐา' รัดกุม ก่อนรับคำสั่งใครมาแต่งตั้ง 'ผบ.ตร.' คนใหม่ในอีก 2 วัน ฟาด 'ประยุทธ์' อยู่มา 9 ปี ไม่แก้ปัญหา

25 ก.ย. 2566 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และบ้านที่ซื้อไว้ให้ลูกน้องพักรวม 5 หลัง ภายในหมู่บ้านในซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ หลังพบมีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องการเข้าค้นบ้านครั้งนี้ มองว่าเป็นการเตะตัดขาหรือไม่นั้น ตนเองมองว่าการจับกุมผู้ใต้บังคับบัญชา กับเรื่องการค้นบ้านของ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร.เป็นคนละส่วนกัน

ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ ผบ.ตร.,รอง ผบ.ตร. คนอื่นทั้งหมด ตำรวจกลุ่มดังกล่าว ก็ไม่ได้ขึ้นตรงกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพียงแต่เรียกใช้ได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้ เกี่ยวกับการช่วงชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ เพราะจะแต่งตั้งในอีก 2 วันแล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เผยว่า สมัยพล.อ.ประยุทธ์ ก็พยายามจะแต่งตั้ง ผบ.ตร. มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถตั้งได้ จึงตกมาที่ เศรษฐา 

โดยเศรษฐา ต้องเข้าใจกฎหมาย ตร. ที่ออกมาใหม่ เท่าที่ตนศึกษาดู ส่วนที่ดีก็มี ส่วนไม่ดีก็มี ซึ่งนายกฯ เป็นคนนอกวงการการเมือง หากอยู่ในวงการการเมืองบ้างคงจะเข้าใจ พ.ร.บ.ตร. ที่มี 181 มาตรา ซึ่งตนมองว่านายกฯ จะมานั่งศึกษาอย่างไร อาจจะไม่เข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจการแต่งตั้งหากไม่ถูกต้องรัดกุมอาจถูกดำเนินคดีด้วย

โดยเหตุการณ์การค้นบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับ รอง ผบ.ตร. ตนไม่เคยเห็น และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ทำลักษณะนี้ มันก็มองได้ว่าอาจพยายามล้มล้างเพื่อเอาตำแหน่ง

เมื่อเช้าตนเองก็ติดตามข่าว การค้นบ้าน ซึ่งการจะไปค้นต้องไปขอหมายศาล และต้องระบุว่าจะไปค้นบ้านใคร เลขที่เท่าไหร่ ด้วยมูลเหตุอะไร มีสาเหตุอะไร มิเช่นนั้นจะไม่ผ่านการพิจารณาของศาล รวมถึงรายละเอียดเรื่องเวลาการค้นด้วย ตรงนี้ หากระบุชื่อว่าค้นบ้าน 'บิ๊กโจ๊ก’ ศาลคงไม่ให้ค้น และการไปตรวจค้นบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ต้องมีพยานหลักฐานแน่นหนา ต้องไม่พลาด แต่นี่ค้นแล้วไม่พบหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้มองได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีวิธีการหละหลวมในการรวบรวมพยหานหลักฐานหรือไม่

ส่วนตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไปค้นนั้นอาจจจะไม่รูัก็ได้ แต่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่อาจจะรู้ และที่สำคัญตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. หากไปค้นถูกต้อง ก็คงให้ค้น แต่นี่เอาคอมมานโดไปด้วย ตนก็มองว่าไม่เหมาะสม เป็นการผิดวัตถุประสงค์ รูปการณ์ครั้งนี้ ตนว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ต้องมีสาเหตุมาจากเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.แน่นอน

ส่วนเรื่องกำนันนก ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดูแลคดี ก็อาจจะเป็นไปได้ที่อาจจะไปขัดขาใคร ตอนนี้ตนอยู่วงนอกแล้ว ไม่ได้อยู่วงใน แต่หากวิเคราะห์คืออีก 2 วันจะแต่งตั้ง ผบ.ตร.แล้ว มันอาจมีอิทธิพลภายนอกมาครอบงำนายกฯ ได้เหมือนกัน 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ยังฝากเตือนนายกเศรษฐา ให้นายกดำเนิการตามตามมาตรา78 ของ พ.ร.บ.ตำรวจ แห่งชาติ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระบุว่าการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) (2) (3) (4) (5) (6) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อพนักงานตำรวจผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 77(1) โดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกันโดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม เสนอ ก.ตร.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ที่ระยะหลังเริ่มมีการข้ามอาวุโสกัน ปล่อยให่มีการวิ่งเต้น มองว่าเหตุการณ์เมื่อเช้าเป็นการเล่นสกปรก ไม่ควรชกใต้เข็มขัด ไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

นายกฯเศรษฐา ต้องไปพิจาารณาให้ดีก่อนที่อีก 2 วันจะรับคำสั่งใครมาให้แต่งตั้ง ผบ.ตร. ส่วนเรื่องวันนี้ ตนไม่อยากให้นำกรณีการบุกค้นบ้านไปประกอบพิจารณาในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ต้องระวังหากการแต่งตั้งไม่เป็นไปตามมาตรา 78 ก็ระวังจะต้องโทษตาม มาตรา 87 

เมื่อถามว่า หากตำรวจยังทะเลาะกันแบบนี้ จะเอาเวลาไหนไปช่วยประชาชน ตนมองว่าที่ตำรวจเป็นแบบนี้จะโทษใครไปไม่ได้ ก็ต้องโทษประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง 9 ปีที่ผ่านมา ประยุทธ์ปล่อยให้เป็นแบบนี้ นายกฯ เศรษฐาก็ต้องไม่เอาตัวอย่างแบบประยุทธ์ ฉะนั้นให้ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย