ไม่พบผลการค้นหา
"จตุพร" จี้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตือนอย่าปล่อยให้ประชาชนอดอยากจนเข้าตำรา "กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่" ซัดการแจกเงินล้มเหลว แนะมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เยียวยาจำนวนเท่าไหร่ก็ต้องแจกไปเท่านั้น

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ ว่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อกับอัตราการตายเริ่มจะเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับอัตราการฆ่าตัวตาย และวันนี้ก็ยังคงมีการฆ่าตัวตาย นั่นหม่ยความว่าสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนยังมีนักการเมืองบางคนบางกลุ่มออกมาพูดในทำนองว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลคงรู้สึกผิดหวังที่มีผู้ติดเชื้อน้อย ซึ่งการพูดในลักษณะเช่นนี้ ตนมองว่า หากไม่เลวจริงๆ เส้นประสาทส่วนชั่วคงไม่ได้ทำงานได้ถึงขนาดนี้

ในเวลาที่แต่ละฝ่ายต้องช่วยกัน เหมือนที่ตนเคยบอกว่าทุกฝ่ายต้องวางการเมือง วางความรู้สึกส่วนตัวลงมา อย่าพยายามหาความขัดแย้งเพิ่มเข้ามา ตนต้องการบอกว่าเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยคนตายน้อย ก็ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ รวมถึงมาตรการป้องกันถือว่าอยู่ในจุดที่สร้างความสบายใจให้กับประชาชน แต่เมื่อไปดูคนจะอดตาย ก็ดูได้จากคนที่ไปแจกเงิน เช่น ที่ขอนแก่นคนต่อแถวรับเงินคนละ 500 บาทพร้อมอาหาร ต่อแถวกันยาวเป็น 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีหลายที่ที่มีภาพการแจกอาหาร ซึ่งบางที่เจ้าหน้าที่ไม่รู้หลักการใช้รัฐศาสตร์ ไปยึดโจ๊กยึดของบริจาค หรือไปจับกุมและดำเนินคดีกับคนแจกอาหาร ซึ่งหากมีภาพเหล่านี้ปรากฏมันยิ่งสะท้อนว่า การเยียวยา ดูแลประชาชนนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง  

ตนได้เสนอว่า ทำไมไม่เอาแนวทางที่ในหลวง รัชกาล 10 ทรงมอบหมายให้ข้าราชบริพาร ระดับต่างๆ ไปมอบของให้กับประชาชน ในเวลาช่วงหัวค่ำ ซึ่งตนก็เห็นว่ากรุงเทพฯและกองทัพภาคที่ 1 ก็ทำ แต่ของเหล่านี้ต้องทำพร้อมกันทั้งประเทศ เพราะเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้วางแนวทางเอาไว้แล้ว รัฐบาลจะต้องรู้ว่าต้องใช้แนวทางดังกล่าว ก็จะจบปัญหาเรื่องการจัดระยะห่างทางสังคมและประชาชนได้รับกันถ้วนหน้าทั้งประเทศ เนื่องจากการใช้ พระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร ก.ฉุกเฉิน นั้น เมื่อไป จำกัดสิทธิ์ ก็จะไปจำกัดรายได้ของบุคคล ซึ่งต้องยอมรับความเป็นจริงว่าก่อนจะมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นคนทุกข์จากภัยแล้งและน้ำท่วม และงบภัยแล้งและน้ำท่วมก็ทราบมาว่า ยังไม่ได้เยียวยาให้กับประชาชน ดังนั้นภาพความโกลาหล ได้สะท้อนถึงความไร้ประสิทธิภาพในการดูแลเรื่องปากท้องของประชาชนโดยสิ้นเชิง ตนเชื่อว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ จะมีการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน 

นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้เมื่อมีปัญหาก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า การแจกเงินล้มเหลว การใช้เอไอซึ่งเป็นความทุเรศที่สุด ก็มีความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง อีกทั้ง การแจกเงินยังเป็นปัญหาเรื่องวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่สถานการณ์ในประเทศไทยที่เหมือนอยู่ในภาวะสงคราม ความเดือดร้อนความอดอยากมันได้ได้เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ รวมถึงการคัดกรองที่บ้างโดนระบุว่าเป็นเกษตรกรทั้งที่ไม่ได้เป็น วันนี้เมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เงินก็มีแต่ประสิทธิภาพไม่มี ทั้งที่ประชาชนไม่ได้มีปัญหากับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบคือรัฐ ไม่สามารถดูแลความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ ทำให้มีการเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพราะประชาชนไม่สามารถทนต่อความอดอยากได้ ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายจำนวนมากซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทนดูกันได้อย่างไร  

"ดังนั้นหากมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เยียวยาเท่าไหร่ก็ต้องแจกไปเท่านั้น หากยังคงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเชื่อว่าทุกคนพร้อม ให้ความร่วมมือ เพราะกลัวว่าการระบาดของโรคจะกลับมาอีก แต่เมื่อไม่มีศักยภาพและล้มเหลวมาถึงปัจจุบันนี้ นั่งบริหารประเทศอยู่ได้อย่างไรเห็นคนต่อแถวแทบเหยียบกันตาย วันนี้ที่น่ากลัวคือคนฆ่าตัวตายกันไม่เว้นแต่ละวัน แต่หากสถานการณ์ถึงจุดหนึ่ง คดีลัก วิ่ง ชิง ปล้น ก็จะมากขึ้น หาก ยังไม่ปรับมาตรการ การเป็นรัฐบาลต้องมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนได้พูดชัดแล้วว่าในวันเวลาแบบนี้ไม่มีเรื่องการเมือง รัฐบาลชุดนี้ล้มไปก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตน วันนี้ตนไม่ต้องการล้มรัฐบาล แต่ต้องการให้รัฐบาลเห็นใจประชาชน" นายจตุพร ระบุ

นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลอย่าหลงว่าล็อกโควิด-19 ได้ แต่ล็อกการฆ่าตัวตายไม่ได้ ดังนั้นความโกลาหลที่กำลังจะเกิด หากยังอยู่ในสถานการณ์ที่คนฆ่าตัวตายทุกวันเพราะความอดอยาก คนที่ไม่เคยลำบากจะไม่มีวันเข้าใจ คนที่อิ่มตลอดชีวิตก็ไม่รู้จักความหิว ไม่มีอาหารที่จะกิน ทำให้คนจนตรอกและไม่รู้ว่าจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร ดังนั้นรัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด คือยกเลิกระบบเอไอ ประชาชน ลงทะเบียนใช้สิทธิ์มาเท่าไหร่หากเข้าคุณสมบัติต้องจ่ายทั้งหมด รัฐบาลมี พ.ร.ก.ที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ถึง 1.9 ล้านล้านบาท รวมถึงงบลงทุนทั้งหลายดึงมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ และต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนกับความรู้สึก เช่น การตัดงบแต่ละกระทรวง มีข่าวเรื่องการตัดงบบัตรทอง และงบ กระทรวงสาธารณสุข แม้ว่าต่อมาจะออกมาแก้ข่าวว่าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่สำนวนไทยบอกว่า ไม่มีมูล หมาไม่ขี้  

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อเราไม่สามารถกลั่นกรองคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทยอยเเจก แต่ความหิวมันรอไม่ได้ ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลง วันนี้เอไอ บอกว่าเป็นเกษตรกร ไม่จ่าย วันหน้าเป็นเกษตรกรก็ต้องจ่ายอยู่ดี ทำเหมือนประเทศพัฒนาแล้ว ใช้เอไอ แต่ในความเป็นจริงยังไม่ใช่ การใช้เอไอ ต้องรวดเร็วและพร้อมกันทั้งประเทศ

"หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขความอดอยากได้ก็ควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้คนได้ไปดิ้นรนเอาข้างหน้า เพราะคุณไม่มีสิทธิ์จะจำกัดสิทธิ์ให้คนอดตาย สุขภาพมาก่อนเสรีภาพ อย่าปล่อยให้เข้าตำรากล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ " นายจตุพร กล่าว  

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า จะนั่งจัดรายการผ่านโซเชียลทุกวันในช่วงเที่ยง วันจันทร์ถึงศุกร์ หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ต่อไป สิ่งที่ต้องแก้ไขคือปัญหาความอดอยาก นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รับผิดชอบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องสั่งการให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ตรวจสอบพื้นที่เพื่อนำอาหารไปให้ประชาชนได้ครบถ้วน