ไม่พบผลการค้นหา
ศาลนัดสอบคำให้การ 'แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์' กรณีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ รับเป็นห่วงผู้ต้องขังคดีการเมืองรายอื่น อัดรัฐบาลล้มเหลวปล่อยคลัสเตอร์เรือนจำระบาด

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1199/64 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา5 เป็นโจทก์ฟ้อง ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ อายุ 32 ปี แนวร่วมกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น 

และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83 ,91, 112, 217 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6 ) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 โดยในวันนี้ ไชยอมร ได้เดินทางมาพร้อม อรวรรณ แก้ววิบูลย์พันธุ์ มารดา และศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ศศินันท์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันนัดรายงานตัวหลังได้รับการประกันตัว ที่เพิ่งจะครบรอบการฝากขังไชยอมรไปเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อัยการได้ยื่นฟ้องไชยอมรเข้ามาในข้อหาดังที่ปรากฏในข่าว โดยขั้นตอนเบื้องต้นคือการนำตัวแอมมี่ไปห้องเวรชี้เพื่อฟังการอ่านคำฟ้อง เนื่องจากทนายและจำเลยยังไม่ได้เห็นคำฟ้องว่ามีเนื้อหาอย่างไรบ้าง แต่โดยหลักทั่วไป หลังจากมีการอ่านคำฟ้อง ศาลจะสอบถามจำเลยว่าจะให้การอย่างไร ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ 

ด้านไชยอมร เผยว่า หลังจากตนได้รับอิสรภาพรู้สึกมีความสุขเพียงครึ่งเดียว เพราะคนอื่นๆ ยังคงถูกคุมขังอยู่ เช่น อานนท์ นําภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก และคนอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สื่อ ในประเด็นของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำนั้น ไชยอมร กล่าวว่า สิ่งที่พวกเรากำลังต่อสู้กันอยู่ ไม่ใช่การต่อสู้กับระบบราชทัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของปัญหาเชิงโครงสร้าง จะมองว่ากรมราชทัณฑ์เป็นแพะในเรื่องนี้อย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากคลัสเตอร์เรือนจำเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน

จากการให้การต่อศาล ไชยอมรให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และศาลมีนัดตรวจพยานอีกทีในวันที่ 28 มิถุนายน 2564