แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ภาคเหนือยังประสบวิกฤติปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยกลุ่มที่ ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคหัวใจ และกลุ่มเด็กซึ่งช่วงนี้ปิดเทอม  ทำให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรมนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น เช่น การวิ่งเล่น กระโดด ปีนป่าย ทั้งที่สนามเด็กเล่น สนามกีฬา และลานกิจกรรม

ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครองควรตรวจสภาพอากาศ หากมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ควรเปลี่ยนให้เด็กทำกิจกรรมในบ้านแทน หากเลี่ยงไม่ได้ ควรให้เด็กสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากปอดของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ อัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ และเด็กยังมีภูมิต้านทานต่ำ โอกาสที่เด็กจะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กจึงมากกว่าผู้ใหญ่

“พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการผิดปกติของเด็ก เช่น ระคายเคืองผิวหนัง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบพาไปพบแพทย์หรือไปที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ให้เด็กดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน   กินผักผลไม้ และดูแลบ้านให้สะอาด สำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและหรือโรคหัวใจให้พกยาติดตัวเสมอ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ปัญหาฝุ่นหวั่นกระทบยอดท่องเที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่
• นักวิชาการเตือนคนเชียงใหม่รับมือ 'หมอกควัน' หนักกว่าเดิมอีก 3 วัน
• เชียงใหม่ เปิด 'คลินิกมลพิษ' รองรับผู้ป่วยจากปัญหาหมอกควัน
• เชียงใหม่ค่าฝุ่นพุ่ง อันดับ 1 ของโลก 2 วันซ้อน