สะเทือนวงการเพลงแนวเมทัลบ้านเราอีกครั้ง หลัง ‘Dezember’ วงดนตรีเมทัลชั้นนำของไทยปล่อยเพลงใหม่ในชื่อเพลง ‘Long Live The People’
เพลงเสียงร้องโทนต่ำผสานกับเนื้อเพลงวิจารณ์รัฐบาลที่ครองอำนาจในปัจจุบันว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการในยุคศักดินาอำนาจนิยมซึ่งมีความหมายตรง คมชัด ผสมกับดนตรีแนวเดธเมทัลดุดันทำให้เพลงนี้ถูกพูดถึงว่าเป็น ‘เพลงการเมือง’ ในยุคนี้อีกเพลงหนึ่งที่คนต้องพูดถึง
ฅวยยยยยย…
อ้างว่าเข้ามาเพื่อแก้ไข
จึงต้องใช้รัฐประหาร
ขอเวลาเราอีกไม่นาน
7-8 ปีแล้วนะไอ้สัตว์
ครองอำนาจดั่งผู้วิเศษ
คนอดตายทั่วทั้งประเทศ
'ต้น' ภัทร ชุมทอง มือกีตาร์ของวงผู้อยู่เบื้องหลังการทำเพลงนี้กล่าวกับ ‘วอยซ์’ ว่า เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อล้อกับสถานการณ์การเมืองไทยที่รัฐบาลซึ่งยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศแล้วเขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจของตัวเองยาวนานเกือบ 8 ปี แต่ไม่สามารถบริหารประเทศได้ เกิดปัญหาเศรษฐกิจ คนอดยาก อดตาย และเมื่อมีคนออกมาต่อต้านกลับไล่จับเข้าคุก ไล่ฆ่า
ใครต่อต้านจับมันไปขัง
ใครไม่ฟังจับมันไปฆ่า
ใครไม่รัก จะ โดน ไล่ ล่าาา
เผด็จการ / มือ / เปื้อนนน เลือด
เผด็จการ / ตีน / เปื้อนนนนนน…เลือด
ประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่ พวกเขาแค่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลที่ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศลาออก ยุบสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ยุติธรรมขึ้น และก็เลือกตั้งใหม่ แต่ผลที่ได้คือ รัฐบาลกลับไม่รับฟังข้อเรียกร้องใดๆ ไม่เปิดโอกาสหรือเปิดพื้นที่ให้ผู้ต่อต้านได้เข้าไปพูดคุยเพื่อหาทางออก และเลือกที่จะตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา เอารถน้ำมาฉีด อีกทั้งยังไล่ล่าจับพวกเขาเข้าคุกโดยไร้ซึ่งความชอบธรรม” ต้นกล่าว
ต้นจึงตั้งคำถามว่า ไหนบอกว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ทำไมคนไม่มีสิทธิที่จะออกมาแสดงออกถึงความต้องการทางการเมืองของตน
“ประชาธิปไตยของไทยมันของเก๊ มีไว้แค่ป่าวประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่าเราปกครองในแบบประชาธิปไตยนะ แต่แท้จริงแล้วเป็นสังคมที่ปกครองแบบรัฐเผด็จการ” ต้นกล่าว
สำหรับต้น รัฐบาลที่ได้รับเงินเดือนเลี้ยงดูจากเงินภาษีประชาชน ควรรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน ฟังว่าประชาชนต้องการอะไร และให้ความเคารพประชาชน ดังนั้นอยากให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจทางการเมืองสำนึกในบุญคุณของประชาชน
คนเท่ากัน มันก็คน เราก็คน คนเท่ากัน
Long… Long Live The People
Long… Long Long Live The People
“เพลงถูกเขียนขึ้นมาเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนเพื่อให้ตระหนักถึงพลังอำนาจที่ประชาชนมีเท่าๆกัน นั่นก็คือหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง และสามารถใช้ตรงนี้ในการที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านกับอำนาจมืด อำนาจที่ไม่เป็นธรรมได้ หากรวมใจกันคิดแบบนี้กันทุกคน” ต้นอธิบายนิยายของ ‘Long Live The People’ ชื่อเพลงนี้สั้นๆ
ต้นบอกต่อว่า เพลงนี้ยังพูดถึงอำนาจมืดที่อิงอยู่กับศักดินาอำนาจนิยมที่ไม่ยอมให้ประชาชนพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเมื่อมีคนพูดถึง วิจารณ์ถึงคนเหล่านั้นก็จะถูกไล่ล่า ไล่ฆ่า จับเข้าคุกเพื่อปิดปาก
ดังนั้นเป้าหมายของเพลงนี้จึงเพื่อสื่อสารกับประชาชนทุกคนรวมถึงตัวต้นเองว่า ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง มีสิทธิ มีเสียง มีเสรีภาพในทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง
“อยากจะบอกว่าประชาชนอย่างเราๆ ก็สามารถยืนหลังเหยียดตรงแล้วสู้กับอำนาจมืด อำนาจเผด็จการทหาร เผด็จการศักดินาอำนาจนิยมได้ เมื่อทุกคนตระหนักเช่นนั้น ทุกคนคิดแบบเดียวกัน ก็จะสามารถรวมกันเป็นพลังประชาชนที่ยิ่งใหญ่ได้” ต้นบอก
ต้นมองอีกว่าประชาชนคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ ทุกอย่างในประเทศไม่ว่าการเมือง การพัฒนาทางเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนโดยประชาชนทั้งสิ้น
“พวกชนชั้นนำ ทหาร นายทุน ที่มีกินมีใช้ก็เพราะประชาชนอย่างพวกเราที่กันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างกำไรให้พวกมันได้เสวยสุขกัน และประชาชนก็ยังโดนเอาเปรียบมาโดยตลอดอีกเช่นกัน” ต้นกล่าว
ไม่มีอำ นาจใด ในโลกหล้า
ผู้ปกครอง ต่างมา แล้วสาปสูญ
ไม่มีใคร ล้ำเลิศ น่าเทิดทูน
ประชาชน สมบูรณ์ นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัด ต่อสู้ ผู้กดขี่
ประชาชน ย่อมมี ชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้า สีทอง ผ่องอำไพ
ประชาชน ย่อมเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน
ต้องบอกว่าจุดเด่นของเพลงนี้อยู่ที่คอนเซ็ปเพลงที่ชัดเจน เนื้อหาเพลงที่ถูกเขียนอย่างเชื่อมร้อยเป็นเรื่องเดียวกัน และปิดท้ายด้วยการแทรกบทกวีปลุกพลังอำนาจประชาชนระดับตำนานของ ‘วิสา คัญทัพ’ ทำให้เพลงนี้ทำหน้าที่ของมันได้ลงตัว
ต้นบอกว่า เหตุผลที่นำบทกวีนี้มาใส่ในเพลงก็เพราะว่ารู้สึกประทับใจในทุกๆบรรทัด เขาสามารถท่องได้ขึ้นใจ เพราะเป็นบทกวีที่อธิบายให้เห็นถึงอำนาจประชาชนเป็นอำนาจสูงสุดในประเทศนี้อย่างแท้จริง ตราบใดที่เรายังมีความหวัง วันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ย่อมมาถึงตราบนั้น
“ที่เอามาใส่เพลงนี้ เพราะว่าบทกวีนี้สอดคล้องกับเนื้อเพลงที่พูดถึงต้นตอของปัญหาที่ว่า ทำไมอำนาจประชาชนไม่เป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ก็เพราะมีศักดินาอำนาจนิยมคอยกดอยู่”
ต้นยังเล่าว่าเขาได้ติดต่อขอใช้บทกวีนี้จากอาจารย์วิสา คัญทัพ โดยผ่านลูกชายของอาจารย์ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่สนิทกัน และอาจารย์วิสาก็ตอบรับให้สามารถนำมาใช้ได้
ในอนาคต ‘Dezember’ ยังทำเพลงแนวการเมืองแบบนี้ออกมาอีกหรือไม่ ต้นบอกว่าต้องรอติดตาม