ไม่พบผลการค้นหา
ภาคประชาสังคมกัมพูชา หวั่นรายได้บ่อน้ำมันแห่งแรกของประเทศในอ่าวไทย ไม่โปร่งใส ส่อทุจริตวงกว้างในภาครัฐ

องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติในกัมพูชา และแนวร่วมพรรคฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้รัฐบาลพนมเปญเปิดเผยข้อมูล โดยละเอียดเกี่ยวกับรายได้ที่ได้รับจากภาคอุตสาหกรรมปิโตรเลียม หลังจากกัมพูชาเริ่มเดินหน้าสูบน้ำมันดิบเป็นครั้งแรกของประเทศ

ท่าทีนี้มีขึ้น หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฮุนเซน แถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ร่วมทุนกับภาคเอกชนสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันในเชิงพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรกจากการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองสีหนุวิลล์ราว 160 กิโลเมตร


นายกฯ กัมพูชากล่าวว่า การผลิตน้ำมันเชิงพาณิชย์ในปี 2564 เป็นต้นไป จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาลกับประเทศ โดยเฉพาะภาคการศึกษา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดในเชิงรายได้ ส่งผลให้หลายฝ่ายเกิดคำถามถึงความโปร่งใสในการใช้ประโยชน์จากรายได้ของการขุดเจาะพลังงานดังกล่าว

กัมพูชาค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 แต่ด้วยความล่าช้าหลายประการ ให้รัฐบาลเพิ่งได้ลงนามกับบริษัท KrisEnergy ในปี 2560 เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำมันดังกล่าว โดยเอกชนสหรัฐเป็นผู้ถือหุ้น 95% ส่วนกัมพูชาถือหุ้น 5% ตั้งเป้าที่จะผลิตน้ำมัน 7,500 บาร์เรล/วัน

ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรเพื่อความโปร่งใสกัมพูชา (Transparency International Cambodia - TIC) เผยกับเรดิโอฟรีเอเชียว่า ธุรกิจน้ำมันจะกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้หลักของรัฐบาล นอกเหนือจากภาคการท่องเที่ยวและการเกษตร

"กลุ่มเฝ้าระวังด้านคอรัปชันหลายแห่งได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้จากธุรกิจน้ำมัน เนื่องจากกัมพูชามีชื่อเสียงไม่ดีเรื่องความโปร่งใสของภาครัฐ"

"ที่ผ่านมาระบบความรับผิดชอบในภาครัฐยังไม่สมบูรณ์ จึงมีความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใส และความสามารถในการจัดการงบประมาณที่ได้น้ำมันจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้จากธุรกิจน้ำมันควรถูกไปใช้เพื่อเสริมสร้างการศึกษา สาธารณสุข รวมถึงการขยายโครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าถึงน้ำของประชาชน ควรใช้รายได้จากส่วนนี้เพื่อขยายรากฐานเศรษฐกิจสำหรับชาวกัมพูชารุ่นต่อไป" ผู้อำนวยการองค์กรเพื่อความโปร่งใสกัมพูชา กล่าว

ที่ผ่านมาฮุนเซนขจัดศัตรูทางการเมืองด้วยการยุบพรรคและตั้งข้อหาร้ายแรงต่อฝ่ายตรงข้าม สื่อมวลชนในประเทศไม่มีอิสระในการตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ

กัมพูชา-น้ำมัน


อุม ซัมอัน อดีตสมาชิกสภาฝ่ายค้าน จากพรรคสงเคราะห์ชาติ (Cambodia National Rescue Party) ตั้งข้อสังเกตว่า ฮุนเซนจะใช้ประโยชน์จากน้ำมัน สร้างความชอบธรรมเชิงอำนาจเพื่อเพิ่มความนิยมรัฐบาล

อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านยอมรับว่า น้ำมันจะสร้างผลประโยชน์มหาศาลแก่กัมพูชา หากเงินเหล่านั้นถูกนำไปใช้อย่างเหมาะสม แต่เขาเตือนว่า เงินเหล่านั้นอาจเข้ากระเป๋าครอบครัวฮุนเซนกับพรรคพวก

นอกจากประเด็นความโปร่งใส ภาคประชาสังคมบางส่วนยังกังวลเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ หากการขุดเจาะเกิดความผิดพลาด 

เฮง คิมฮง เจ้าหน้าที่จาก People Center for Development and Peace องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร กล่าวว่า โครงการขุดเจาะน้ำมันนี้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลควรสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าการขุดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ถูกดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงและปราศจากการทุจริต

เช่นเดียวกับ เสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดเสียมราฐ กล่าวว่ารัฐบาลควรมีความโปร่งใสอย่างเต็มที่เกี่ยวกับวิธีการจัดสรรเงินที่ได้มาจากแหล่งน้ำมัน สอดคล้องกับ สน โสพัด ชาวบ้านในจังหวัดสีหนุวิลล์ กล่าวว่า กระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน ควรออกรายงานรายได้จากการสกัดน้ำมันทุกเดือน และเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบ บริษัทที่ลงทุนในภาคธุรกิจอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรของชาติ

ทั้งนี้ จากการจัดอันดับดัชนีคอรัปชันทั่วโลกประจำปี 2562 โดยองค์กรนานาชาติเพื่อความโปร่งใสพบว่า กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 162 โดยแย่ลงจากปีก่อนหน้าซึ่งเคยอยู่ที่ 161 จากการจัดอันดับทั้งหมด 198 ประเทศทั่วโลก

ที่มา : VOA , DW