วันที่ 4 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา ก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ยกเลิกอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี 

อมร นิลเปรม สว. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในประเด็นดังกล่าวว่า ตนมีมุมมองอีกแบบหนึ่ง อย่างน้อยตอนนี้ สว. ยังต้องดำรงตำแหน่งอยู่อีก 10 เดือน จึงอยากถามว่า ทำไมต้องรีบร้อนที่จะแก้ไข โดยปกติการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้มีการจัดตั้งรัฐบาล หรือมีฝ่ายค้านเลย 

ส่วนการแก้ไข ม272 สามารถเสร็จทันก่อนการเลือกนายกฯ หรือไม่ อมร กล่าวว่า ไม่สามารถจะไปตัดสินแทนฝ่ายบริหารที่เสนอให้แก้ไขกฎหมายนี้ได้ ในส่วนของ สว. ก็ทำหน้าที่ตามฝ่ายนิติบัญญัติไป และ สว. จะมีความเห็นเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับหน้างาน เพราะ สว. แต่ละคนไม่ใช่นักการเมือง มีความคิดเป็นของตัวเอง และต้องคำนึงถึงบ้านเมืองเป็นหลัก ซึ่งผลกระทบต่อการเลือกนายกฯ นั้น แล้วแต่หน้างานว่า ใครที่เหมาะสม เพราะเป็นหน้าที่ของ สว. ที่จะพิจารณาคนที่จะมาดำรงตำแหน่ง 

เมื่อถามถึงเรื่องคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย อมร ระบุว่า ต้องดูข้อมูลก่อน และต้องให้ เศรษฐา มาชี้แจง ซึ่งจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ในสภาหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวของ เศรษฐา เอง ส่วนที่ สว. หลายคนยังติดในเรื่องการแก้ไข ม.112 มองว่า กฎหมายมาตรานี้ไม่ควรให้แตะอยู่แล้ว

ส่วนที่ เศรษฐา เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงหาเสียงเกี่ยวกับการแก้ไข ม.112 นั้น อมร ระบุว่า อยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคลที่ทำมาในอดีต ซึ่งพฤติกรรมส่อเจตนาอยู่แล้ว พร้อมระบุว่า “เวลาอยากได้ของเขาก็มาใช้คำพูดอีกแบบหนึ่ง ถึงวันนั้นก็ให้ สว. ตัดสินกันเอง เพราะทุกคนก็เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาก่อน และมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ”

อมร ระบุอีกว่า ตอนนี้ทีมเจรจาของพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการติดต่อมาพูดคุย ซึ่งตัวเองสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ เอาบ้านเมืองเป็นหลัก ขอให้บ้านเมืองไปรอดได้ ซึ่งตนเองไม่ได้เน้นเรื่องประชาธิปไตย ตอนนี้ต้องเอาบ้านเมืองก่อน