นับตั้งแต่ประเทศแถบยุโรปประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ระงับกิจกรรมและธุรกิจต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดอกไม้ส่งออกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกดอกไม้และเหง้าไม้ประดับอื่นๆ รวมกว่า 77 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์ทั่วโลก ทำให้ดอกไม้จำนวนมากเหลือทิ้งและถูกนำไปกลบฝังในแต่ละพื้นที่
ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายผู้เพาะปลูกและส่งออกดอกไม้จึงพร้อมใจกันรณรงค์แคมเปญ #BuyFlowersNotToiletPaper (ซื้อดอกไม้ อย่าเพิ่งซื้อกระดาษทิชชู่) เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง
โครงการดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้สนใจร่วมสนับสนุนเป็นจำนวนมาก บริษัทเอกชนในเนเธอร์แลนด์ซื้อดอกไม้ไปแจกจ่ายด้วยวิธีที่แตกต่างกัน บางบริษัทจัดซื้อดอกไม้ให้นำไปส่งแก่พนักงานของตัวเองที่ต้องทำงานจากที่บ้าน ขณะที่บางบริษัทส่งดอกไม้ไปให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์และผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมออนไลน์ติดแฮชแท็ก #FlowerBoostChallenge เพื่อกระตุ้นการซื้อขายดอกไม้ เช่น บริษัทหนึ่งท้าให้พนักงานของตนเองโพสต์ภาพถ่ายคู่กับช่อดอกไม้ฟรีที่ได้รับลงบนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมทั้งแท็กบริษัทคู่ค้าอื่นๆ ให้ทำกิจกรรมแบบเดียวกัน
The Guardian รายงานว่านี่คือโมเดลช่วยเหลือภาคเกษตรและธุรกิจที่เริ่มจากคนในสังคมและภาคเอกชนด้วยกันเอง หลังจากที่บริษัทผลิตวาล์วและปั๊มน้ำในเมืองร็อตเทอร์ดัมเริ่มซื้อดอกไม้แจกเป็นรายแรกๆ ทำให้บริษัทอื่นๆ ราว 1,000 แห่ง ทั้งในเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมนี อังกฤษ และแคนาดา ร่วมโครงการด้วยในเวลาต่อมา ช่วยกระตุ้นยอดขายดอกไม้เพิ่มกว่า 1 ล้านดอกในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
ทั้งนี้ แรงงานในภาคเกษตรของอุตสาหกรรมดอกไม้ในเนเธอร์แลนด์ มาจากหลายประเทศและหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งยังได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย Reuters คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจสูงถึง 5,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.75 แสนล้านบาท
ส่วนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการมองว่า การส่งดอกไม้ให้แก่กันจะช่วยเป็นกำลังใจและเยียวยาคนในสังคมได้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: