นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมแก้ปัญหาโรงแรมโก่งราคาในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" หลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่า ตั้งแต่วันที่ 20-22 ก.ค. 2563 มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาโคงการ ผ่านสายด่วน ททท.1672 รวมถึงช่องทางเว็บไซต์ และการร้องเรียนผ่านกระทรวงการคลัง พบว่า มีทั้งสิ้น 27 เรื่อง โดยปัญหาเรื่องราคาค่าห้องที่ปรับสูงผิดปกติ มีผู้ร้องเรียนมากที่สุด 21 เรื่อง ส่วนปัญหาอื่นๆ เป็นเรื่องของระบบในการดำเนินการจองห้อง หรือ เชื่อมต่อไม่สมบูรณ์ของระบบ
ผู้ว่าฯ ททท.ยอมรับว่า ปัญหาราคาค่าห้องที่แพงขึ้นอาจเกิดจากความผิดพลาดในเรื่องของตัวระบบการส่งข้อมูลของเว็บไซต์จองโรงแรม หรือ Online Travel Agency (OTA) และธนาคารกรุงไทยไม่เสถียร รวมถึงการแสดงราคาในเรทที่ยังไม่ได้หักส่วนลดร่วมโครงการของ OTA ซึ่งเบื้องต้นยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการโก่งราคา แต่จากข้อร้องเรียนที่พบจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป หากพบว่ามีความผิดก็จะถูกตัดสิทธิเข้าร่วมโครงการทันที
ทั้งนี้ที่ประชุมได้ขอความร่วมมือให้ OTA ตรวจสอบราคาที่พักย้อนหลังของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติหรือไม่ ซึ่งตามเงื่อนไขกำหนดให้เว็บไซต์ตรงของโรงแรมขายถูกกว่า OTA ได้ เพื่อให้เป็นตัวเลือกในการจองของประชาชน
ทั้งนี้ยืนยันว่า OTA ที่เข้าร่วมไม่ได้มีการบวกค่าคอมมิชชันเพิ่มเข้าไปจากราคาที่โรงแรมเสนอเข้ามา แต่ยอมรับว่า การทำธุรกิจโรงแรมจะต้องมีการปรับราคาขึ้น-ลงได้ตามความต้องการในช่วงเวลานั้น
ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2563 ที่ได้มีการขยายหลักเกณฑ์เปิดช่องให้โรงแรมสามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มเติม เฉพาะผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและโฮมสเตย์ที่ใบอนุญาต และจดทะเบียนถูกต้อง ซึ่งใบอนุญาตหมดอายุไปก่อน ส่วนผู้ประกอบธุรกิจที่พักอื่น หรือโรงแรมนอกระบบนั้น ยืนยันว่า ยังไม่ได้ให้เข้าร่วมโครงการฯ
สำหรับความคืบหน้าโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ในการจองโรงแรมที่พัก ณ วันที่ 22 ก.ค. 2563 มีผู้ลงทะเบียนรวม 4.41 ล้านคน ลงทะเบียนสำเร็จ 4.18 ล้านคน มีการใช้สิทธิโรงแรมแล้ว 169,123 ห้อง