ไม่พบผลการค้นหา
ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจ ร้อยละ 84.4 อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ขณะที่ร้อยละ 87 เห็นว่าการเมืองมีความเป็นธรรมน้อยถึงไม่มีเลย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง 'แก้ปากท้อง กับ เป็นธรรมก่อน' กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,094 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนร้อยละ 87.0 ระบุว่าสถานการณ์การเมืองกับความเป็นธรรมทางการเมืองมีธรรมน้อยถึงไม่มีเลย ส่วนร้อยละ 13.0 ระบุว่ามีมากถึงมากที่สุด

และเมื่อจำแนกออกตามกลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพมหานคร กับ คนต่างจังหวัด พบว่า ทั้งคนกรุงเทพมหานคร และ คนต่างจังหวัดส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 87.9 และ 86.1 ระบุมีความเป็นธรรมทางการเมืองน้อยถึงไม่มีเลย

เมื่อถามถึงปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขเร่งด่วนเป็นอันดับแรก ร้อยละ 84.4 ระบุแก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง รายได้ตกต่ำ, ร้อยละ 4.0 ปัญหาความไม่ยุติธรรม ความไม่เป็นธรรมทางการเมือง, ร้อยละ 3.0 ระบุปัญหาการพัฒนาประเทศ, ร้อยละ 2.6 ระบุปัญหาคมนาคม อุบัติเหตุ ปัญหาจราจร, ร้อยละ 2.5 ระบุปัญหาทุจริตคอรัปชั่น และร้อยละ 3.5 ระบุปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาการศึกษา ปัญหาน้ำท่วมขัง ปัญหาสวัสดิการพนักงานลูกจ้าง เป็นต้น

เมื่อจำแนกออกเป็นคนกรุงเทพฯ และ คนต่างจังหวัด พบว่า ทั้งคนกรุงเทพฯ และ คนต่างจังหวัดส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.8 ของคนกรุงเทพฯ และ ร้อยละ 81.7 ของ คนต่างจังหวัด ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง รายได้ตกต่ำ เป็นอันดับแรก แต่ที่น่าสนใจคือ คนต่างจังหวัดมีสัดส่วนของคนที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรมทางการเมืองสูงกว่าคนกรุงเทพฯ คือร้อยละ 5.6 ต่อร้อยละ 2.6 ในการสำรวจครั้งนี้

ผอ. ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นถึงความไม่เป็นธรรมทางการเมืองก็ตาม แต่ปัญหาปากท้อง รายได้ตกต่ำเป็นโจทย์ใหญ่สุดของประชาชนทั่วไปในเวลานี้ และที่น่าเป็นห่วงยิ่งขึ้นไปอีกคือ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นกลับตกเป็นอันดับท้าย ๆ ดังนั้น การรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญในปัญหาอื่น ๆ มากกว่าปัญหาปากท้อง จึงเป็นสิ่งท้าทายของทุกหน่วยงาน โดยที่อารมณ์ของสาธารณชนขณะนี้น่าจะเป็นผลมาจากสภาวะการเมืองที่อ่อนแอและอาจส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อระบบทางสังคม (Social System) ในมิติอื่น ๆ ได้จนยากจะเยียวยา ซึ่งทางออก 3 ทางที่ต้องเร่งทำ คือ 1. เร่งประสานลดความขัดแย้งในตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้ลงตัว 2. เร่งเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชนผ่านนโยบายสาธารณะ ลดอุปสรรคที่สกัดรายได้สุจริตของประชาชน และ 3. เร่งรณรงค์ขับเคลื่อนสังคมให้เห็นความเป็นธรรมทางการเมืองและความซื่อสัตย์สุจริตของผู้นำทางการเมือง