ไม่พบผลการค้นหา
ฝ่ายการตลาดบริษัทบรรจุภัณฑ์เผยผลประกอบการสิ้นปีน่าจะเทียบเท่าปีก่อน เหตุสินค้ายังเป็นที่ต้องการของตลาด ย้ำธุรกิจต้องปรับตัวเร็ว พร้อมรับมือความไม่แน่นอนในอนาคต

นายสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ข้ามชาติ กล่าวว่า ช่วงวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาบริษัทและลูกค้าในมือต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในกระบวนการทำงานโดยเฉพาะในฝั่งสายการผลิตมากกว่าผลกระทบจากยอดคำสั่งซื้อที่ลดลง

โดยผลกระทบแรกที่ต้องปรับตัวมาจากการที่จีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกวัตถุดิบสำคัญอย่างกระดาษที่จะใช้ในการทำเป็นบรรจุภัณฑ์ปิดประเทศ ทำให้บริษัทต้องหันไปพึ่งแหล่งส่งออกอื่นๆ ที่ยังได้มาตรฐานอยู่ ซึ่งงในที่นี้ต้องเป็นกระดาษที่มาจากป่าที่ปลูกเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ และเมื่อบริษัทหันไปพึ่งสินค้าจากฝั่งยุโรปได้ไม่นานประเทศเหล่านั้นก็ประกาศปิดประเทศตามมา ทำให้บริษัทต้องแก้ปัญหาเรื่องการหาวัตถุดิบให้เพียงพอกับสายการผลิต

นอกจากนี้ เมื่อรัฐบาลไทยประกาศบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ที่จำกัดช่วงเวลาการเดินทางก็ทำให้บริษัทต้องหาวิธีให้วิศวกรเข้าถึงเครื่องจักรในกรณีที่มีปัญหาช่วงกลางคืนแบบใหม่ อาทิ การบังคับใช้งานเครื่องจักรผ่านทางไกลแทน 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทรวมถึงลูกค้าที่มาใช้บริการบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคไม่ได้รับผลกระทบมากนักเรื่องยอดขาย โดยจากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค พบว่าสิ่งที่ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากที่สุดคือความสะอาด ความปลอดภัย รวมไปถึงสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน 

สุภนัฐ ปิดท้ายว่า หากมองระยะต่อไป ตนยังคิดว่าผลประกอบการในปีนี้น่าจะออกมาใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แต่ความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ ทั้งเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคที่สลับไปมารวมไปถึงความเสี่ยงของการกลับมาระบาดระลอกที่สอง พร้อมกันนี้ บริษัทต้องเตรียมพร้อมคิดหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงไปของพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาขึ้นให้เหมาะสมกับการขนส่งมากขึ้น