วันที่ 1 ก.พ. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 25 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) วาระพิจารณาญัตติด่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมบังคับใช้อำนาจอย่างล้นเกิน สืบเนื่องจากการอดอาหารประท้วงของ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงศ์ 2 เยาวชนนักกิจกรรมทางการเมือง
จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กรณีการอดอาหารเพื่อเรียกร้องของ ตะวัน-แบม เป็นอีกผลพวงของความไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศ ส่งผลให้เกิดการแสดงออกด้วยความคับแค้นของประชาชน
“แม้ดิฉันจะกังวลและห่วงใยอย่างมากต่อแนวทางการต่อสู้ของตะวันและแบม แต่ดิฉันเคารพในการตัดสินใจ และขอใช้หัวใจคารวะต่อความเด็ดเดี่ยวของคุณตะวันและคุณแบม อย่างไรก็ตาม ดิฉันไม่อยากให้ชื่อของทั้ง 2 ท่านนี้ ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ไทยว่า เป็นหนึ่งในวีรชนที่สละชีวิตต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ในระบอบประชาธิปไตย”
แม้บางข้อยังยากจะสำเร็จได้ในเวลาอันสั้น แต่หากรัฐบาลและผู้มีอำนาจใช้หัวใจรับฟังข้อเรียกร้องเหล่านั้น ท่านจะเข้าใจความคับแค้น จนถึงขั้นใช้ชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อให้เสียงของพวกเขาดังไปถึงรัฐบาลและผู้มีอำนาจ แม้ท่านจะไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องเหล่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นตรงกัน คือสิทธิประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่าให้เป็นสิทธิที่ถูกยกเว้นสำหรับนักโทษทางการเมือง
“นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักโทษทางความคิด ไม่ใช่อาชญากร ไม่ควรนอนอยู่ในคุก เยาวชนคนหนุ่มสาว เป็นพลังแห่งอนาคตของประเทศ แค่เห็นต่างทางการเมืองไม่ใช่ศัตรู ไม่ได้เป็นภัยต่อประเทศ ขอให้ผู้มีอำนาจได้คืนสิทธิประกันตัวให้แก่พวกเขา ให้พื้นที่ปลอดภัยให้พวกเขามีโอกาสแสดงความคิด สร้างประเทศนี้ไปด้วยกัน”
ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามจะชูนโยบายที่ดูทันสมัยก้าวหน้า เช่น นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล นโยบายซอฟท์พาวเวอร์ แต่นโยบายเหล่านั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะรัฐบาลยังใช้วิธีล้าหลังจัดการคนหนุ่มสาว เพราะนโยบายเหล่านั้นย่อมอาศัยพลังของคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อน หากยังมีคนคิดต่างนอนอยู่ในคุก แล้วคนรุ่นใหม่จะกล้าฝันได้อย่างไร อย่าให้อนาคตของประเทศถูกทำลาย เพียงเพื่อรักษาอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา