ต่างประเทศ
ไฟไหม้สถาบันวิจัยอาวุธรัสเซียดับอย่างน้อย 7 ราย ทางการยังไม่ระบุสาเหตุ
สำนักข่าว Tass ของรัฐบาลรัสเซียรายงานโดยอ้างข้อมูลจากหน่วยดับเพลิงว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้กว่า 25 ราย ในขณะที่มีผู้หายตัวไปอีกอย่างน้อยอีก 10 ราย อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นมีรายงานพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 5 ราย ก่อนที่สำนักข่าว Tass จะรายงานในภายหลังว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นไปถึง 7 ราย
“เรายืนยันตัวเลขการเสียชีวิตในตอนนี้อยู่ที่ 7 ราย” สำนักข่าว Tass ระบุก่อนกล่าวเสริมว่าตัวเลขการเสียชีวิตอาจพุ่งสูงขึ้นกว่ารายงานในเบื้องต้นอีก โดยเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เริ่มเกิดไฟปะทุขึ้นที่บริเวณอาคารบริหารของสถาบันวิจัยกลางของกองกำลังป้องกันการบินและอวกาศรัสเซีย ภายใต้การกำกับการของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วบริเวณอาคารสามชั้นบน ส่งผลให้ผู้ที่หลบหนีไม่ทันเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ในขณะที่ผู้ที่สามารถหลบหนีได้ทันหลายรายได้รับบาดเจ็บ หลังจากตัดสินใจกระโดดออกจากหน้าต่างของอาคาร ก่อนที่หลังคาของอาคารจะพังถล่มลงมา
ภาพถ่ายเปิดเผยให้เห็นถึงอาคารที่ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง จนส่งผลให้ตัวอาคารได้รับความเสียหายอย่างหนัก พร้อมกันกับควันดำและประกายเพลิงที่ลอยขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้ สถาบันวิจัยทางอาวุธดังกล่าวตั้งอยู่ห่างออกไปจากกรุงมอสโกของรัสเซียในทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร
เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยัน ถึงเหตุการเพลิงไหม้ที่โรงงานเคมีที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียทก่อนหน้าเหตุไฟไหม้ในสถาบันวิจัยด้านอาวุธเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยมีการส่งต่อภาพที่กล่าวอ้างว่าเป็นเหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ ณ โรงงานเคมีดมิทรีฟสกีในพื้นที่กินเซียมา ห่างออกไปจากกรุงมอสโกทางตะวันออกเฉียงเหนือ 400 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ยังไม่มีการรายงานยืนยันจากทางการรัสเซียว่าเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไร โดยอัยการทหารในท้องที่ตเวียร์ของรัสเซียกำลังลงสถานที่เกิดเหตุ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนสาเหุต อย่างไรก็ดี สำนักข่าว Tass ระบุว่าจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่ามีสายไฟที่ถูกใช้งานมานาน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดเหตุในครั้งนี้ขึ้น
เว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า สถาบันกลาโหมที่เพิ่งเกิดเหตุพลิงไหม้นี้ เป็นสถานที่ในการวิจัยด้านการบินและอวกาศ รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบครบวงจรสำหรับองค์กร CIS ของอดีตสหภาพโซเวียตมาก่อน
ที่มา:
https://www.rferl.org/a/russia-fire-tver-defense-research/31815016.html
