เวลา 21.52 น. วันที่ 14 ต.ค.2563 นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊กระดมกำลัง 'กองทัพประชาชน' ทุกจังหวัด ให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เตรียมพร้อมตั้งล้อมจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ ทั้งทางใต้-ตะวันตก-ตะวันออก และทางเหนือ โดยระบุว่าเพื่อจะปฏิบัติการ 'เก็บขยะแผ่นดิน'
แม้ นพ.เหรียญทองจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ปฏิบัติการเก็บขยะแผ่นดิน คืออะไร แต่มีการพาดพิงถึงกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 ซึ่งปักหลักอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า "หากมีสัญญาณว่าผู้ชุมนุมจะบุกพระราชฐาน มันเหล่านั้นไม่ใช่พสกนิกรของพระเจ้าแผ่นดินอีกต่อไป...มันคืออริราชศัตรู"
"...ผมจะประกาศปฏิบัติการเก็บขยะแผ่นดินทันที...ผมจะนำกองทัพประชาชนปกป้องพระเจ้าอยู่หัว พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ด้วยชีวิตตามคำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงไชยเฉลิมพลว่า "จะปกป้องพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้าและถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่"...เราจะจับกุมผู้ชุมนุมทุกรายในที่ชุมนุมที่อยู่ในขณะนี้ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุกรายตามบัญชีดำ"
นอกจากนี้ นพ.เหรียญทองยังระบุด้วยว่าจะผนึกกำลังกับ 'สุวิทย์ ทองประเสริฐ' หรืออดีตพุทธะอิสระ พร้อมด้วยสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ซึ่งจะประจำการที่พุทธมณฑลเพื่อรับ 'กองทัพประชาชน' จากทางใต้และตะวันตก
ส่วน 'นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม' จะคุมกำลังบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับมวลชนจากตะวันออก และ นพ.เหรียญทอง ระบุว่าจะคุมกำลังที่เมืองทองธานีเพื่อรับมวลชนจากเหนือ-อีสาน-กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า "กองทัพประชาชนจะไม่มีการประนีประนอม เพราะนี่คือกบฎอริราชศัตรู"
ทั้งนี้ ไม่อาจระบุได้ว่า นพ.เหรียญทองจะดำเนินการ 'จับกุมผู้ชุมนุม' โดยอาศัยขอบเขตอำนาจใด และผู้ชุมนุมยืนยันว่าการชุมนุมสาธารณะเป็นสิทธิตามกฎหมายของพลเมืองที่รัฐธรรมนูญรองรับเช่นกัน
หลังจาก นพ.เหรียญทอง โพสต์เฟซบุ๊กได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง มีผู้กดแสดงความรู้สึกเกือบ 1,000 ราย และมีการแสดงความคิดเห็นเกือบ 1,000 คอมเมนต์ และ 'เพจเชียร์ลุง' ได้นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากสนับสนุนให้ดำเนินการกับผู้ชุมนุม และมีการเรียกร้องให้ใช้ 'สไนเปอร์ เป่าหัว' โดยเปรียบเทียบกับกรณี 'เสธ.แดง'
ขณะเดียวกัน ผู้ร่วมชุมนุมคณะราษฎร 2563 ซึ่งถูกจับกุม 19 ราย เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว และแกนนำการชุมนุมที่ปักหลักบริเวณทำเนียบรัฐบาลช่วงค่ำ 14 ต.ค. ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติการชุมนุม
ส่วนการระดมกำลังกลุ่มประชาชนโดยอ้างว่าเพื่อร่วมตัวกันปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วหลายครั้งในอดีต ทั้งกรณี 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งมีการปลุกระดมมวลชนให้เข้าใจว่ากลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ชุมนุมใหญ่ในครั้งนั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน แต่เหตุการณ์ทั้งสองครั้งจบลงที่พลเรือนเสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่ และไม่มีการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: