วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า ในส่วนของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่านค้านนั้น ทราบว่าต้องการให้มีการตั้ง ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน
ขณะที่ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน หรือ 8 เดือน พร้อมยอมรับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะทั้งสองร่างนี้ อาจเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชามติ ที่จะต้องรอกฏหมายการทำประชามติเข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งคาดว่าหลังเปิดประชุมสภาครั้งต่อไป ก็จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ควบคู่กันไป
แต่ทั้งนี้มองว่าร่างรัฐธรรมนูญจะดำเนินการพิจารณาแล้วเสร็จก่อน และทิ้งช่วงเอาไว้ เพื่อรอร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่าการพิจารณาเรื่องนี้จะช้าหรือเร็ว แต่คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 1-2 เดือน ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ต่อไป ระหว่างนี้ต้องมีการเว้นระยะเวลาช่วงหนึ่ง จากนั้น จึงนำร่างรัฐธรรมนูญมาทำประชามติต่อไป ซึ่งตามกฏหมายระบุไว้ว่า เมื่อจะต้องมีการทำประชามติ จะต้องอยู่ในช่วงเวลา 90-120 วัน
พร้อมกันนี้ วิษณุ ยังระบุว่า ข้อเรียกร้องที่ให้มีการยุบสภาภายหลังแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จนั้น อาจจะทำไม่ได้ เนื่องจากต้องดูว่าใครจะเป็นคนทำกฎหมายลูก ที่ต้องมารองรับกฎหมายที่แก้ไข โดยเฉพาะเมื่อต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ที่อยากให้ไปใช้รูปแบบเดิม คือ กากบัตร 2 ใบ หรือ แม้แต่การปิดสวิตซ์ ส.ว.และการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ดังนั้นจึงต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบครอบ
ขณะเดียวกันวิษณุ ยังย้อนถามฝ่ายค้านที่ออกมาเรียกร้องให้มีการยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ทันทีหากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ว่า จะใช้กฎหมายลูกใด ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพราะหากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ จะต้องมีการตรากฎหมายลูก เพื่อนำไปจัดการเลือกตั้งด้วย ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาเรื่องกฎหมายลูกด้วย