ยูริ อูชาคอฟ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์นานนับชั่วโมง สีและปูตินได้ร่วมกันประณาม “นโยบายของสหรัฐฯ ในการแทรกแซงกิจการภายในของรัฐอื่นๆ”
ผู้นำทั้งสองคนพูดถึงการสร้าง “ระเบียบโลกที่มีหลายขั้วและยุติธรรมมากขึ้น” ท่ามกลางความพยายามที่นำโดยสหรัฐฯ ที่จะควบคุมศัตรูรายใหญ่ที่สุดของตัวเองทั้งสองชาติ (รัสเซียและจีน) อูชาคอฟกล่าว “ผู้นำของทั้งสองประเทศตระหนักดีว่า สหรัฐฯ กำลังดำเนินนโยบายการสกัดกั้นสองชั้น (ต่อ) ทั้งรัสเซียและจีนในทางปฏิบัติ”
พันธมิตรชาติตะวันตกพยายามจับตารัสเซียและจีน ซึ่งทั้งสองชาติต่างพยายามขยายอิทธิพลของตัวเองออกไปทั่วโลก ทั้งนี้ มีความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่รัสเซียและจีนได้ยกระดับความสัมพันธ์ในด้านการค้าและการป้องกันประเทศที่เพิ่มมากขึ้น
รัสเซียสานสัมพันธ์กับจีนให้แน่นแฟ้นขึ้น จากการที่จีนสามารถเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของรัสเซีย นับตั้งแต่ชาติตะวันตกโจมตีรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากเหตุโจมตีต่อยูเครน ในขณะเดียวกัน จีนได้รับประโยชน์จากการนำเข้าพลังงานราคาถูก และการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากองรัสเซีย รวมถึงการขนส่งก๊าซอย่างสม่ำเสมอผ่านท่อส่งก๊าซพาวเวอร์ออฟไซบีเรีย
ข้อมูลจากกรมศุลกากรของจีนระบุว่า การค้าระหว่างจีนกับรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองชาติมีมูลค่าการค้าสูงถึง 2.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.8 ล้านล้านบาท) ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง พ.ย. ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยทั้งสองประเทศในปี 2562 ก่อนกำหนด 1 ปี
ทางการรัสเซียและจีนยังได้ดำเนินการค้าขายในสกุลเงินรูเบิลและหยวนมากขึ้น ในขณะที่ทั้งสองชาติยุติการค้าขายในสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ลง นอกจากนี้ อูชาคอฟกล่าวว่า ปูตินและสียังเน้นย้ำถึงคำเรียกร้องของพวกเขาว่า การสร้าง “โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่รับประกันความน่าเชื่อถือของการชำระเงิน” เป็นสิ่งสำคัญ
ปูตินและสียังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน และการแก้ไขข้อขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง และทั้งสองชาติยังมีความเห็นที่ตรงกันเกี่ยวกับความขัดแย้งเหล่านี้ อย่างไรก็ดี อูชาคอฟไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติมถึงความเห็นที่ตรงกันของทั้งสองผู้นำ
ก่อนหน้านี้ จีนและรัสเซียได้ประกาศความร่วมมือแบบ “ไร้ขีดจำกัด” หลายวันก่อนที่รัสเซียจะเริ่มยกทัพเข้ารุกรานยูเครนในเดือน ก.พ. 2565 และทั้งสองชาติยังได้ขยายความสัมพันธ์ของตัวเองร่วมกัน แม้ว่าประเทศตะวันตกส่วนใหญ่จะมีนโยบายโดดเดี่ยวรัสเซียก็ตาม
ทั้งนี้ จีนเองยังถูกสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะจากประเด็นความขัดแย้งในหลายประการ รวมถึงพฤติกรรมของจีนต่อไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลจีนอ้างว่าเป็นดินแดนของตน
“ในการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประธานาธิบดีรัสเซียยืนยันจุดยืนหลักของเขาในประเด็นไต้หวัน ซึ่งก็คือการสนับสนุนนโยบาย 'จีนเดียว'” สำนักประธานาธิบดีรัสเซียระบุในแถลงการณ์
ตามการอ่านข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีน สียังระบุกับปูตินด้วยว่า ทั้งสอง “ควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในเชิงยุทธศาสตร์ ปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์การพัฒนาของประเทศของตน” สียังเน้นย้ำว่าทั้งสองฝ่ายควร “ต่อต้านการแทรกแซงกิจการภายในโดยกองกำลังภายนอกอย่างเด็ดเดี่ยว”
ก่อนหน้านี้ ปูตินและสีพบกันหน้ากันเป็นจำนวน 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยอูชาคอฟกล่าวว่าผู้นำทั้งสองจะยังคง “มีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด” ต่อไป แม้ในตอนนี้ผู้นำทั้งสองจะยังไม่มีแผนที่จะพบปะซึ่งกันและกัน
ที่มา: