ไม่พบผลการค้นหา
ซาอุดีอาระเบียสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ เพื่อเข้าร่วมแสวงบุญในปีนี้ หลังจากโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงในตะวันออกกลางแล้ว

รัฐบาลซาอุดีอาระเบียประเทศแบนนักแสวงบุญชาวต่างชาติเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเกรงว่าจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ในซาอุดีอาระเบีย โดยมาตรการแบนนี้ออกมาเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะถึงช่วงประกอบพิธีฮัจย์ปลายเดือนก.ค.-ต้นเดือน ส.ค. ที่จะมีนักแสวงบุญชาวมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางไปยังนครมักกะและเมืองเมดินา นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียจะไม่อนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19

กระทรวงต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียได้ปรับมาตรการในการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ในระดับนานาชาติ และเตือนให้พลเมืองระมัดระวังก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 82,452 คน โดยมีผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ 220 คนอยู่ในตะวันออกกลาง โดยศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอิหร่านอยู่ที่เมืองกอม ซึ่งมีสถานที่ศักดิสิทธิ์ของศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ที่ผู้แสวงบุญจะไปจูบและสัมผัสหลุมศพ ขณะที่คูเวตก็มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 26 คนมาเป็น 43 คนอย่างรวดเร็ว โดยทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากอิหร่าน

พิธีฮัจย์เป็นพิธีกรรมที่สำคัญมากสำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลาม โดยชาวมุสลิมทุกคนควรต้องเข้าร่วมพิธีฮัจย์ที่ซาอุดีอาระเบียอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต ส่งผลให้แต่ละปีมีชาวมุสลิมหลายล้านคนเดินทางจากทั่วโลกไปยังซาอุดีอาระเบีย

มีการบันทึกเกี่ยวกับโรคระบาดในช่วงประกอบพิธีฮัจย์ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 1175 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย ขณะที่อหิวาตกโรคก็เคยแพร่ระบาดช่วงพิธีฮัจย์ปี 2364 โดยมีผู้แสวงบุญเสียชีวิตประมาณ 20,000 ราย ขณะที่การแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคปี 2408 ก็คร่าชีวิตผู้แสวงบุญไปกว่า 15,000 ราย และอหิวาตกโรคก็ระบาดไปทั่วโลกอีกด้วย


ที่มา : The Independent, AP, SCMP