ไม่พบผลการค้นหา
เพราะละเมิดสิทธิมนุษยชนและไม่สนับสนุนประชาธิปไตย

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกายุติโครงการสิทธิพิเศษทางการค้ากับประเทศเอธิโอเปีย มาลี และกินี โดยในแถลงการณ์ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุสาเหตุว่ามาจากการกระทำของรัฐบาลทั้งสามประเทศที่ละเมิดข้อตกลงที่ส่งเสริมการเติบโตและโอกาสระหว่างสหรัฐฯ และประเทศในทวีปแอฟริกา (AGOA)

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเคยเสนอต่อรัฐสภาของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าจะตัดสิทธิทั้งสามประเทศ เนื่องจากกรณีความขัดแย้งและความอดอยากที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเขตทิเกรย์ทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย ในจดหมายที่ไบเดนเขียนถึงรัฐสภา ระบุว่า เอธิโอเปียไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงของ AGOA เนื่องจากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งการคุกคามทางเพศ และการสังหารประชาชน

ด้านกินีและมาลี ไบเดนระบุว่า “ไม่มีความคืบหน้าในการทำให้ประเทศมีหลักนิติธรรมและพหุนิยมทางการเมือง และมาลีล้มเหลวในการส่งเสริมสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน” หลังจากเกิดการรัฐประหารในกินีเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา และในมาลีเมื่อปี 2020

การระงับผลประโยชน์ในครั้งนี้ส่งผลต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอของเอธิโอเปียซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก รวมทั้งส่งผลกระทบต่อความหวังว่าประเทศจะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเบา นอกจากนี้ยังสร้างแรงกดดันมากขึ้นต่อสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของสหรัฐฯ ระบุว่า แต่ละประเทศจะได้รับการคืนสถานะหากปฏิบัติตามเกณฑ์และมาตรฐานที่กำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจน และรัฐบาลสหรัฐฯ ยินดีที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลของทั้งสามประเทศ

กระทรวงการค้าของเอธิโอเปียเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า "ผิดหวังอย่างยิ่ง" กับการประกาศของวอชิงตัน พร้อมระบุว่า การตัดสิทธิทางการค้าดังกล่าว นอกจากจะส่งผลลบต่อผลกำไรทางเศรษฐกิจแล้ว จะยังส่งผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรมและเป็นอันตรายต่อผู้หญิงและเด็กในเอธิโอเปีย โดยตัวแทนรัฐบาลกล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ จะส่งผลให้เกิดการสูญเสียงานกว่าหนึ่งล้านตำแหน่ง

เอธิโอเปียส่งออกสินค้าปลอดภาษีมูลค่า 237 ล้านดอลลาร์ไปยังสหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการ AGOA ในปี 2020 ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัทเสื้อผ้า The Children's Place ของสหรัฐฯ และ H&M ของสวีเดน ซึ่งจัดหาเสื้อผ้าจากเอธิโอเปีย ยังไม่แสดงความคิดเห็นใดใดต่อการยุติการค้าปลอดภาษีที่เกิดขึ้น