ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ สั่ง สธ.แก้ปัญหาเตียงเต็มในกรุงเทพฯ หลังพบผู้ป่วยตกค้างกว่า 1,400 รายต้องเร่งนำส่งโดยเร็ว หากระบาดหนักเน้นลดเวลากักตัวผู้ป่วยอาการน้อยเหลือ 10 วัน ให้บางพื้นที่ใช้อำนาจพิจารณาสั่งปิดสถานที่-เคอร์ฟิวได้

วันที่ 24 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการ ศบค. ได้รับทราบปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เรียกประชุมกับหน่วยงานต่างๆอย่างเร่งด่วน และได้สั่งการให้แก้ปัญหาทั้งหมด และได้ข้อสรุปเบื้องต้นดังนี้

1. เรื่องการดูแลผู้ป่วย ได้มีการสั่งการหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขดังนี้

1.1 ให้จัดเตรียมเตียงเพิ่มเติมที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทุกคน เร่งแก้ปัญหาเตียงเต็มของโรงพยาบาลในกรุงเทพ ด้วยการบูรณาการระบบส่งตัวผู้ป่วยกับหน่วยงานขนส่งต่างๆ เพื่อนำส่งไปยังโรงพยาบาลในปริมณฑล

 1.2 โดยในวันนี้ผู้ป่วยที่ตกค้างอยู่นอก รพ. จำนวน 1,423 คน จะเริ่มได้รับการติดต่อนัดหมายเพื่อนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตามความเร่งด่วนของอาการ และทั้งหมดจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 2-3 วันนับจากวันนี้

 1.3 แก้ปัญหาการเชื่อมโยงเครือข่าย ด้วยการเพิ่มเติมคู่สายผู้รับโทรศัพท์ให้เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น

 1.4 แก้ปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างสถานที่ตรวจของเอกชนกับระบบของรัฐให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยให้ปรับรูปแบบการคัดกรอง ให้ไปคัดกรองที่โรงพยาบาลสนามแทนโรงพยาบาลทั่วไปเพื่อลดการแออัด จากนั้นทางรัฐจะติดต่อเพื่อสอบถามอาการ ความรุนแรง และนัดเวลาไปรับมารักษา

  1.5 เพิ่มบุคลากรอาสาทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ จากทุกภาคส่วน รวมถึงภาคธุรกิจเอกชน มาช่วยงานในภารกิจต่างๆ

 1.6 หากสถานการณ์ระบาดรุนแรงขึ้น อาจพิจารณาลดเวลาในการกักตัวในโรงพยาบาลสำหรับผู้ไม่มีอาการหรืออาการน้อย จาก 14 วันลงเหลือ 10 วัน และให้กักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัดและมีระบบติดตามดูแล ซึ่งจะช่วยทำให้มีเตียงเพิ่มขึ้น จะช่วยลดภารกิจของบุคลากรทางการแพทย์

2. เรื่องการควบคุมสถานการณ์

 2.1 สั่งการให้ทุกจังหวัด เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมสถานการณ์ ตามกลุ่มที่ได้แบ่งไว้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการพิจารณายกระดับมาตรการการป้องกันโรค ปิดสถานที่ต่างๆได้เพิ่มเติมที่จำเป็น

 2.2 พิจารณาความจำเป็นในการออกประกาศปิดสถานที่หรือกำหนดเคอร์ฟิวในบางพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบถึงผลกระทบต่างๆ

โดยตนในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.จะติดตามกำชับการดำเนินการทุกข้ออย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตครั้งนี้ให้ลุล่วงไปให้ได้ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นอันดับแรก