18 ธ.ค. 2562 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. อัยการศาลแขวงดุสิต ได้สั่งฟ้องนายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล ในฐานะผู้ชุมนุมในคดี UN62 เพิ่มเป็นจำเลยที่ 39 ในข้อหาเดียวกันกับผู้ชุมนุมคนอื่น ๆ อีก 38 คน ทั้งนี้ ศาลอนุญาตปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ นัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานในครั้งต่อไปวันที่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 9.00 น.
ในคดีนี้กลุ่มผู้ผู้ชุมนุมคดี UN ถูกอัยการฟ้องรวมทั้งหมด 5 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216 ไม่เลิกมั่วสุม เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก, ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, ข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้แก่ กีดขวางทางเข้าออกสถานที่ราชการและสถานศึกษา ตามมาตรา 8 (1)(3), มีการชุมนุมระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุมฯ ตามมาตรา 11, ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุม ตามมาตรา 16 (1)(4)(7)(9) และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 19 และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108 และ 114 เรื่องการเดินขบวนและวางสิ่งของกีดขวางการจราจร
แต่เนื่องจากข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ถูกยกเลิกไปแล้ว จำเลยทั้ง 39 ราย จึงเหลือ 4 ข้อหาที่ยังถูกฟ้องอยู่ ในข้อเท็จจริงเดียวกัน ทั้งนี้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวเนติวิทย์ โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน แต่ให้สาบานตนว่าจะมาศาล ตามที่ศาลนัด และนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานในครั้งต่อไปวันที่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 9.00 น.
คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 2561 หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และองค์การสหประชาชาติ ซึ่งผู้ชุมนุมพยายามเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ โดยมีการแยกฟ้องเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มแกนนำจำนวน 21 คน และกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 39 คน