วันที่ 20 มิ.ย. 2566 ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ ส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ว่า ตนได้เข้าไปดูที่ปางช้างแม่ริม โดยพยายามจะผลักดันให้ภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนในเรื่องอาหารช้าง และพรรคจะหาทางช่วยเหลือ รวมทั้งรถกู้ภัยช้างก็มีในประเทศเพียง 1 คันเท่านั้นและการขนช้างก็มีค่าใช้จ่ายที่สูง ตนก็จะหาทางช่วยระดมทุนจะหาทางช่วยได้อย่างไร ส่วนการพูดคุยกับกลุ่ม Young Smart Farmers นั้น มีการวิจัยเพื่อหาวิธีจะเพิ่มผลผลิตให้กับราคาข้าวและถั่วเหลือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายเพิ่มรายได้สุทธิให้เกษตรกรถึง 3 เท่า ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มารับฟังปัญหา พร้อมทั้งยืนยันจะกลับมารับฟังปัญหาอีกครั้ง นอกจากนั้นยังมีมาดูธนาคารน้ำ ซึ่งจากนี้อีก3 ปีจะมีปัญหาเรื่องเอลนีโญ ทำให้เกิดภัยแล้งสูงมาก ดังนั้นธนาคารน้ำจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาภัยแล้ง โทรหาพรรคเพื่อไทยผลักดันในเรื่องนี้สำเร็จเกาะจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งและจะช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรไทยอย่างมโหฬาร
เศรษฐา ระบุด้วยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ก็จะมีตั้งคณะทำงานออกมาภายใน1-2 วันนี้หลังการประชุมกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยจะมีผู้ใหญ่ในพรรคมาร่วมคณะทำงานเพื่อลงพื้นที่เยอะขึ้น โดยพรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ตลอดนับจากนี้ไป เพื่อให้ใกล้ชิดกับประชาชนและนำปัญหาของประชาชนไปเป็นโจทย์ในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน
ส่วนกรณีที่มีเสียงของตัวแทน Young Smart Farmers เสนอให้เปลี่ยนอำนาจโครงสร้างรัฐก่อนนั้น เศรษฐา ระบุว่า ตนคิดว่าตัวแทนที่เสนออยากให้คิดใหญ่ เพราะมีเรื่องของทุนผูกขาดทุน การประสานงานของภาครัฐและภาคเอกชน โดยจุดประสงค์การลงพื้นที่ของตนไม่ได้ดูเรื่องตรงนี้ แต่ดูเรื่องปัญหาเฉพาะ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีการเผาตอข้าวเยอะ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยก็มีการคิดค้นร่วมกับนักวิจัยร่วมทำเรื่องผงจุลินทรีย์สลายตอข้าวได้ 10-14 วัน แต่ยังเป็นปัญหาอยู่เพราะราคาถุงประมาณ 400 บาท แต่เราต้องชี้ให้เห็นประโยชน์ของการไม่เผาตอข้าว
เมื่อถามถึงกรณีแชทในกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่แสดงความเห็นการเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเศรษฐา ระบุว่า ตนไม่ได้อยู่ในกลุ่มไลน์ เพราะตนใช้แอปพลิเคชัน WhatsApp เท่านั้น จึงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรแต่เท่าที่ได้ยินมา เรื่องการแสดงความเห็นเป็นปกติของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตนเห็นด้วยควร มีการเปิดพื้นที่ให้ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้แสดงความเห็นพูดคุยถึงความรู้สึกด้วย แต่เรื่องที่ต้องทำนั้นควรตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด
ส่วนใครจะเป็นประธานสภาฯ นั้น ในที่ประชุมสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย วันที่ 21 มิ.ย.นี้ คงมีการหยิบยกมาพูดคุยกันและพรรคเพื่อไทยก็เปิดให้สมาชิกได้แสดงความเห็นอยู่แล้ว ทัังนี้ตนไม่ทราบว่า จะมีการลงมติเพื่อหาข้อยุติในตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยึดโยงประชาธิปไตยและประชาชนเป็นหลัก ดังนั้น ส.ส.เป็นตัวแทนประชาชนก็ต้องรับฟังเสียงและต้องพูดคุยอย่างสุภาพไม่ก้าวร้าวด้วย
เศรษฐา ระบุว่า เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของการยกให้หรือไม่ยกให้ แต่ต้องเป็นเรื่องการเดินหน้าร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากประชาชนจริงๆ และตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะตกลงด้วยกันด้วยดี