วิลเลียม ไล นายกรัฐมนตรีไต้หวัน หรือสาธารณรัฐจีน สังกัดพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมคณะรัฐมนตรีทั้งหมดในวันนี้ (10 ม.ค. 2562) เพื่อเปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากพรรคดีพีพีพ่ายแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นในหลายเขตทั่วไต้หวัน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 2 เดือนก่อน ในวันที่ 24 พ.ย. 2561
ก่อนหน้านี้ ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวัน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคดีพีพีไปแล้ว แต่ไม่ก้าวลงจากตำแหน่ง ปธน. แต่การที่พรรครัฐบาลไม่สามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้ในหลายๆ เขต สะท้อนถึงความนิยมที่ลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม การลาออกจากตำแหน่งของไช่อิงเหวินและวิลเลียม ไล ไม่ใช่เรื่องผิดปกติในแวดวงการเมืองไต้หวัน เพราะถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองและลดแรงกดดันต่อพรรค
ปธน. ไช่อิงเหวินจะเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทนวิลเลียม ไล รวมถึงเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า พรรครัฐบาลดีพีพีกำลังเผชิญกับกระแสต่อต้านเพิ่มขึ้นจากประชาชนและภาคธุรกิจ เนื่องจากที่ผ่านมา พรรคดีพีพีมุ่งเน้นนโยบายปฏิรูปความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีน โดยยืนยันว่าไต้หวันมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง ในขณะที่จีนยืนกรานมาตลอดว่าไต้หวันถือเป็นส่วนหนึ่งของจีน และอยู่ภายใต้นโยบาย 'จีนเดียว'
อย่างไรก็ตาม การประกาศนโยบายปฏิรูปความสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน รวมถึงการเจรจาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐฯเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐบาลไต้หวันภายใต้การนำของไช่อิงเหวิน ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจ และประกาศว่าพร้อมจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดกับไต้หวัน จนเป็นเหตุให้ไต้หวันเรียกร้องนานาประเทศให้ช่วยปกป้องประชาธิปไตยไต้หวันอีกแรงหนึ่ง
ผลจากความตึงเครียดดังกล่าว ทำให้คะแนนนิยมของพรรครัฐบาลดีพีพีของไต้หวันตกต่ำลง ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไปของไต้หวันจะจัดขึ้นในปี 2563 ซึ่งไช่อิงเหวินไม่ได้ยืนยันว่าเธอจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งหรือไม่ หลังจากที่เคยชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2556
ล่าสุด (11 ม.ค. 2562) ไช่อิงเหวินได้ประกาศแต่งตั้ง โซจิงชง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนวิลเลียม ไล โดยโซเคยเป็นนายกฯ มาก่อนแล้วเมื่อปี 2549 ในสมัยที่เฉินฉุ่ยเปียนเป็นประธานาธิบดี
ที่มา Reuters