ไม่พบผลการค้นหา
245 ปีการก่อตั้งชาติสหรัฐอเมริกา 'โจ ไบเดน' ประกาศความยิ่งใหญ่ ชาติใกล้ได้เอกราชจากโควิด วอนชาวอเมริกันทุกภาพคส่วนร่วมมือยุติโควิด

สหรัฐอเมริกา ฉลองวันชาติปีที่ 245 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยประธานธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden)ได้เปิดประตูทำเนียบขาว และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทำหน้าที่ของตนเพื่อยุติการระบาดของโควิด-19 ด้วยการฉีดวัคซีน

งานฉลองวันชาติครั้งนี้มีความพิเศษกว่าครั้งใด เพราะเป็นการจัดงานงานรื่นเริงในที่สาธารณะเป็นครั้งแรก ตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งขณะนี้สัญญาณของภาวะปกติได้กลับมาอีกครั้งหลังจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้นำสหรัฐ ฯ ได้อธิบายว่าวันหยุดครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ “ฤดูร้อนแห่งอิสรภาพ” และงานในวันอาทิตย์ไม่ใช่แค่การฉลองวันประกาศอิสรภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการ “ประกาศอิสรภาพจากโควิด-19” อีกด้วย

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และนาง จิล ไบเดน (Jill Biden) สตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เชิญเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และบุคลากรทางทหาร 1,000 ไปที่ทำเนียบขาว เพื่อรวมงานปาร์ตี้บาร์บีคิวบริเวณสนามหญ้าทางทิศใต้ของทำเนียบขาว และชมการแสดงดอกไม้ไฟประจำปีที่อุทยานแห่งชาติเนชั่นแนล มอลล์ ใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งผู้เข้าร่วมเกือบทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนและไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย

ในการนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวสุนทรพจน์ ณ ทำเนียบขาว โดยผู้นำคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นจากการกล่าวถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การสร้างชาติอเมริกาได้แก่ จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ผู้นำการปฏิวัติอเมริกา โธมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) ผู้กล่าวถึงเสรีภาพและความเสมอภาคที่เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล และ ดร.มาติน ลูเทอร์ คิง (Martin Luther King) ผู้ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเรียกร้องความเท่าเทียมและการเลิกทาส​

โจ ไบเดน

“ในปีนี้ วันที่ 4 กรกฎาคมเป็นวันพิเศษของพวกเราจากการก้าวข้ามความมืดมนของปีการแพร่ระบาดและการแยกห่างจากกัน ถือเป็นปีแห่งความเจ็บปวด ความหวาดกลัว และการสูญเสียขวัญกำลังใจ”

ไบเดนระบุว่าภาคส่วนต่าง ๆ กำลังฟื้นตัว ธุรกิจเริ่มกลับมาจ้างงานมากขึ้น ส่วนสถิติของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เขากล่าวว่าเศรษฐกิจเติบโตดีที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษและอาจจะกล่าวได้ว่าเติบโตดีที่สุดในโลก

ไบเดนยัง ได้ระลึกถึงประวัติศาสตร์การประกาศตัวป็นอิสระของอเมริกา และกล่าวถึงปีต่อไปที่ชาวอเมริกาจะเป็นเอกภาพมากขึ้นว่า “เมื่อ 245 ปีที่แล้วเราได้ประกาศตัวเป็นอิสระออกห่างจากกษัตริย์โพ้นทะเล มาวันนี้เราใกล้ชิดกันมากกว่าเดิมเพื่อที่จะประกาศว่าเราจะเป็นอิสระจากไวรัสมรณะ”

ไบเดน ได้กล่าวรำลึกถึงการสูญเสียของชาวอเมริกันกว่า 600,000 คนที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยกย่องชาวอเมริกันทุกภาคส่วนที่ช่วยรับมือกับการระบาด และย้ำว่าวัคซีนคือการป้องกันที่ดีที่สุดต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ต่างๆ

“เรากำลังเอาชนะไวรัสร่วมกัน เรากำลังเติมลมหายใจให้กับเศรษฐกิจด้วยกัน เราจะช่วยคนของเราจากการแบ่งแยกและความสิ้นหวัง แต่เราต้องทำมันร่วมกัน เมื่อปีที่แล้วเราต่างอยู่ในวันที่มืดมนที่สุด ตอนนี้ผมเชื่อมั่นว่า เราจะเห็นแสงสว่างของอนาคต”

โจ ไบเดน
“เราแค่ต้องจำไว้ว่าเราเป็นใคร เราคือสหรัฐอเมริกา และไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หากเราทำมันด้วยกัน”

อย่างไรก็ดี แม้ไบเดนจะพลาดเป้าหมายที่หวังให้ชาวอเมริกัน 70% เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างน้อยหนึ่งโดสก่อนถึงวันชาติ โดยเป้าดังกล่าวยังไม่บรรลุผล เนื่องจากวันชาติดังกล่าว มีชาวอเมริกันที่รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส 67% และชาวอเมริกัน 157 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนแล้วครบโดส เหตุที่ยังไม่อาจถึงเป้าดังกล่าวได้เนื่องจากยังมีชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านการฉีดวัคซีน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ว่าอาจทำให้สหรัฐกลับมาเผชิญการระบาดระลอกใหม่ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายส่วนยืนยันตรงกันว่า วัคซีนหลักที่สหรัฐฯใช้ทั้ง ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันนั้น ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา

สำหรับส่วนของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา(อินเดีย) ซึ่งมีความโดดเด่นในแง่การแพร่เชื้ออันรวดเร็วและอันตราย โดยเริ่มพบในสหรัฐฯ ตั้งแต่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น จากความกังวลของหลายภาคส่วน ไบเดนจึงได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของวัคซีนว่า “เป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้มากที่สุดเพื่อตัวเอง เพื่อคนที่คุณรัก เพื่อสังคม และเพื่อประเทศชาติ เป็นวิธีที่เราจะอยู่ห่างจากสายพันธุ์(เดลต้า)นั้นได้”

จากรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ได้ระบุว่าสหรัฐฯ เดินหน้าฉีดวัคซีนไปแล้ว 330 ล้านโดส มากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก ชาวอเมริกันที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครบถ้วนจำนวนกว่า 157 ล้านคน คิดเป็น 47.4 % ของประชากรทั้งหมด ในส่วนของพลเมืองอเมริกันที่เข้ารับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสจำนวน 182 ล้านราย หรือคิดเป็น 54.9 % ของประชากรทั้งหมด โดยสัดส่วนของกลุ่มผู้ใหญ่อายุมากกว่า65 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วคิดเป็น 78.7 % ต่างกับกลุ่มวัยรุ่นที่อายุ 18 ปีขึ้นไปที่เข้ารับฉีดวัคซีนเป็นจำนวนน้อยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 58.2 % เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม สถิติโดยรวมยังไม่ถึงเป้าที่ประธานธิบดีไบเดนได้ตั้งไว้ว่า ชาวอเมริกัน 160 ล้านคนจะได้รับวัคซีนครบถ้วนภายในวันชาติที่ผ่านมา และผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 70% จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส 

ที่มา: CNN , NBC , CNBC , Reuters , VOA , NYTimes , CDC